รีเซต

[US Boxoffice] แม่บีครองบัลลังก์ "Renaissance" ออกสตาร์ทเป๊ะปังในอเมริกา

[US Boxoffice] แม่บีครองบัลลังก์ "Renaissance" ออกสตาร์ทเป๊ะปังในอเมริกา
Jeaneration
4 ธันวาคม 2566 ( 08:00 )
100

Box Office Renaissance A Film by Beyoncé

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 1-3 ธันวาคม 2023 - ถึงแม้ว่าจะก้าวเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีแบบฟีลเนื่อย ๆ ไปสักหน่อย แต่การมาของแม่บี "บียอนเซ่" ก็ไม่ธรรมดา เพราะหนังคอนเสิร์ตจากการโชว์ทัวร์ครั้งล่าสุดของเธอ ก็สามารถทะยานขึ้นไปยึดบัลลังก์แชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาในสัปดาห์นี้ได้ ท่ามกลางบรรยากาศช่วงหลังเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าที่อะไร ๆ ก็ค่อนข้างเหงาลงไปอย่างสิ้นเชิง

"Renaissance A Film by Beyoncé" เป็นแชมป์หนังเรื่องใหม่ ทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรกไปได้สวย ๆ ถึง 21 ล้านเหรียญ จาก 2,539 โรงฉายทั่วประเทศ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ดีถึง 8,200 เหรียญโดยประมาณ ถือว่าแม่บีก็ไปได้สวยกับหนังคอนเสิร์ตในปีนี้เช่นกัน และดูเหมือนว่ามันอาจจะกลายเป็นเทรนด์ที่กลับฮิตอีกครั้งของเหล่าศิลปินยุคนี้ กับการเอาเทปบันทึกการแสดงสดของตัวเองมาขึ้นจอใหญ่ เพื่อเก็บเงินรายได้ได้อีกทาง

ถือว่า Renaissance ของแม่บี ทำรายได้เปิดตัวได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์มองเอาไว้นิดหน่อย แต่ทางด้านสถิติรายได้ต่าง ๆ นั้น จัดได้ว่าเป็นหนังคอนเสิร์ตที่ได้เปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ในอเมริกา โดยทำเงินได้ใกล้เคียงกับ Michael Jackson: This Is It เมื่อปี 2009 ที่เคยทำไว้ 23.2 ล้านเหรียญ แต่ก็ยังค่อนข้างห่างไกลจากสถิติของตัวแม่ The Eras Tour ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ทำเอาไว้สูงถึง 92.9 ล้านเหรียญ เมื่อ 2 เดือนก่อน

หนังคอนเสิร์ตเรื่องนี้ยังทำการตลาดปล่อยฉายที่ต่างประเทศด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะได้ฟีดแบกไม่ค่อยปังเท่าฝั่งอเมริกา เพราะหนังเปิดตัวได้เพียง 6.4 ล้านเหรียญ จากการออกฉายใน 94 ประเทศพร้อม ๆ กับอเมริกา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความนิยมของบียอนเซ่ในปัจจุบัน อาจจะไม่ได้กระจายเป็นวงกว้างเหมือนกับเมื่อสิบปีที่แล้วอีกต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม Renaissance ยังกลายเป็นหนังที่สร้างสถิติน่ายินดีบางอย่างให้กับบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาด้วย เพราะนี่นับเป็นหนังในรอบกว่า 2 ทศวรรษ ที่ทำรายได้ได้มากกว่าหลัก 20 ล้านเหรียญ จากการออกฉายในสัปดาห์ให้หลังจากเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งปกติแล้วมักจะเป็นสุดสัปดาห์ที่บ็อกซ์ออฟฟิศมักจะเงียบเชียบลงอยู่เสมอ ๆ

ขณะที่โปรแกรมหนังเรื่องอื่น ๆ ก็ดร็อปลงไปพอสมควร หลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลมา "The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes" ทำรายได้ลดลงไป -50% กับ 14.5 ล้านเหรียญ โดยที่ฟันรายได้รวมในบ้านไปแล้วที่ 121 ล้านเหรียญ ขณะที่ "Trolls Band Together" ก็ยังทำเงินตกลงต่อเนื่องอีก -57% กับ 7.6 ล้านเหรียญ ในสัปดาห์นี้

ส่วนทางด้าน "Wish" หนังแอนิเมชันของดิสนียก็ดูทรงจะหนักหน่วงพอสมควร เพราะวีคนี้ทำเงินไปอีก 7.4 ล้านเหรียญ ถือว่าลดฮวบไปถึง -62% เลยทีเดียว โดยยอดรวมตอนนี้เพิ่งแตะหลัก 40 ล้านเหรียญไปหมาด ๆ เช่นเดียวกับ "Napoleon" ที่ตกอันดับร่วงมาแรงเหมือนกัน กับรายได้อีก 7.1 ล้านเหรียญ ลดฮวบมาถึง -65% กับยอดรวมที่ 45 ล้านเหรียญ ซึ่งหนังทั้งสองเรื่องนี้ยังคงห่างไกลจากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญเหมือนกันทั้งคู่

บรรดาหนังเข้าใหม่สัปดาห์นี้น่าสนใจอยู่หลายเรื่อง "Godzilla Minus One" หนังก็อดซิลลาจากญี่ปุ่น ได้กระแสตอบรับที่ดีในอเมริกามาก ๆ เพราะเปิดตัวได้เซอร์ไพรส์สุด ๆ ในอันดับที่ 3 สัปดาห์นี้ กับรายได้ 11 ล้านเหรียญ จาก 2,308 โรงฉาย หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ 4,700 เหรียญโดยประมาณ นับว่าเป็นหนังญี่ปุ่นที่ทำเงินในอเมริกาได้ดีอีกเรื่องในรอบทศวรรษ

พระเอกตัวจริงของบ็อกซ์ออฟฟิศสัปดาห์นี้กลายเป็น "Animal" หนังแอคชันระทึกขวัญจากบอลลิวูด ของพระเอกซุปตาร์ "รานเบียร์ กาปูร์" ทำเงินเปิดตัวได้แจ่มในอเมริกาที่ 6.14 ล้านเหรียญ จากการฉายเพียง 700 โรงทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ 8,700 เหรียญโดยประมาณ หนังเปิดตัวฉายพร้อม ๆ กับอีกหลายที่ทั่วโลก และตั้งตัวเอาไว้เป็นบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มใหญ่ส่งท้ายปี ที่กลายเป็นหนังอินเดียอีกเรื่องที่เปิดตัวได้ปังในอเมริกา

ขณะที่หนังใหม่ยังมี "The Shift" หนังไซไฟระทึกขวัญผสมความเป็นคริสเตียน จาก แองเจิล สตูดิโอส์ ที่เปิดตัวไปที่ 4.35 ล้านเหรียญ จาก 2,450 โรงฉาย ถือว่าแทบจะไม่มีอะไรใด ๆ เลย เช่นเดียวกับ "Silent Night" หนังแอคชันแก้แค้นที่เป็นการกลับมาทำหนังฮอลลิวูดอีกครั้งของผู้กำกับ "จอห์น วู" ทำเงินได้น่าผิดหวังเพียง 3 ล้านเหรียญ จาก 1,870 โรงฉาย หนังแทบจะไม่มีโอกาสได้ยืนโรงฉายในระยะยาวเลย

และอัปเดตอาการโคม่าของ "The Marvels" ล่าสุดหนังหลุดออกจาก Top 10 บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาไปแล้ว สร้างสถิติใหม่ให้กับหนังมาร์เวลอีกครั้ง เพราะมีช่วงเวลาใน Top 10 ที่ค่อนข้างสั้นกว่าเรื่องไหน ๆ ทั้งหมด โดยล่าสุดทำเงินไปอีก 2.5 ล้านเหรียญ ลดลงไปอีก -60% กับยอดรวมในอเมริกาที่เพิ่งจะแตะถึง 80 ล้านเหรียญ และดูทรงแล้วน่าจะกลายเป็นหนังมาร์เวลเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำเงินในบ้านได้ไม่ถึงร้อยล้านเหรียญแน่ ๆ

สำหรับสัปดาห์ถัดไป บรรยากาศมันจะยังเหงา ๆ ต่อไปแบบส่งท้ายปี เพราะในอเมริกาแทบจะไม่มีหนังใหม่เข้าฉายเลย มีเพียงหนังแอนิเมชัน "The Boy and the Heron" ผลงานล่าสุดของ อ.ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่จะเป็นหนังเรื่องเดียวที่เข้าฉายวงกว้างและมีคิวฉายในโรงไอแม็กซ์ด้วย โดยที่ฝั่งหนังเข้าฉายแบบจำกัดจะมี " Poor Things" หนังตลกร้ายแฟนตาซีหวังรางวัล จะได้ฤกษ์ออกฉายเรียกกระแสแล้ว

 Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa