บทละครโทรทัศน์ หนึ่งในทรวง ตอนที่ 9 หน้า 3
“เอ..แต่ฉันเห็นเหมือนเงาคนเดินไปเดินมาในบ้านนะ..ดูคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นคุณหนึ่ง” ชุลีพยายามมองเข้าไปในบ้าน
สีสุกรีบเดินมาบังสายตาชุลี “ไม่ใช่หรอกจ้ะ..เด็กรับใช้กำลังจัดโต๊ะอาหารน่ะ”
ชุลีจะดันตัวสีสุกออก “แต่ชุลีเห็นเหมือนคุณหนึ่งจริงๆนะคะ ชุลีจำได้ ขอเข้าไปดูใกล้ๆหน่อยได้มั้ยคะ ? จะได้ทักทายทำความรู้จักกันไว้”
“อย่าเลยจ้ะ ไม่ใช่หรอก บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ” สีสุกพยายามยืนขวาง แล้วก็ตัดสินใจโพล่งขึ้น “ส่องแม่ว่า เราชวนชุลีไปเดินเล่นตลาดกับเราด้วยดีกว่านะลูก ไปตลาดกัน!! “ ส่องแสงหันมาทางสีสุก สีสุกขยิบตาให้รับมุก
“ไปตลาด??”
“ใช่ค่ะ ก็เราจะไปเดินเล่นที่ตลาดกันไม่ใช่เหรอลูก เนี่ยพาชุลีไปด้วยกันเลย” สีสุกคว้าแขนชุลี “ไปกันไป”
ส่องแสงยังเหวอ “ไปตลาด ??”
สีสุกขยิบตา “ใช่สิลูก ไปตลาด เราจะ “ไปตลาด” กัน...ไปกันหมดเลย..”
ส่องแสงเก็ท รับมุก “ใช่จ้ะ ใช่ ฉันกับคุณแม่จะไปเดินเล่นที่ตลาด” ส่องแสงคว้าอีกแขน “ไปด้วยกันนะชุลี”
“แต่ฉันไม่อยากไปนี่ “
“เธออยากเจอคุณหนึ่งไม่ใช่เหรอ พอคุณหนึ่งตื่นเดี๋ยวเธอก็ตามไปเจอพวกเราที่ตลาดเหมือนกัน“
“จริงเหรอ? คุณหนึ่งจะตามไปจริงๆเหรอ?”
สีสุกยิ้มเข้าทาง..หันมาปรายตามองกับส่องแสงอย่างรู้กันแล้วก็หันไปตอบเสียงเข้ม “จริง !!”
หทัยรัตน์กำลังแกะสลักผลไม้อย่างตั้งใจดูสวยงาม หทัยรัตน์ส่งให้เด็กรับใช้ “ยกไปให้คุณท่านกับคุณหญิงนะ”
“ค่ะ” เด็กรับใช้ยกถาดผลไม้แกะสลักเดินออกไป สวนกับอนวัชที่เดินเข้ามาพอดี
อนวัชมองตามถาดผลไม้นิดๆ แอบทึ่งในใจไม่คิดว่าหทัยรัตน์จะทำได้ แล้วก็หันมาทางหทัยรัตน์ที่กำลังล้างเก็บอุปกรณ์แกะสลักผลไม้
อนวัชเดินเข้ามาพลางหาเรื่อง เปิดประเด็นทันที “เธอคงจะเสียใจมากนะที่หมอประสงค์รีบกลับ ฉันเห็นร่ำลากันอยู่ตั้งนานสองนาน”
หทัยรัตน์สะดุ้งนิดๆ หันมาเห็นอนวัชกำลังยิ้มทำหน้าเหมือนรู้ทัน หทัยรัตน์เลยตั้งใจแกล้งตอบกลับไป “ใช่ค่ะ..เพราะตอนหมอประสงค์อยู่ดิฉันมีเพื่อนคุย เพื่อนเดินเล่น พอคุณหมอกลับก็อดใจหายไม่ได้”
“ตกลงหมอประสงค์มาทะเลคราวนี้ มาดูแลคุณหญิงหรือคุณครูของคุณหญิงกันแน่ หรือว่าถ้าดูแลทั้งสองคน จะได้เพิ่มค่าเสียเวลาให้คุณหมอเป็นพิเศษ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะดิฉันจ่ายเป็นอย่างอื่นไปแล้ว”
อนวัชเหยียด “ใช่สิ ลืมไป ผู้หญิงที่ไม่มีทรัพย์สมบัติอย่างเธอ คงจะมีวิธีจ่ายด้วยอย่างอื่น .. ไม่แปลกใจทำไมผู้ชายรอบข้างถึงได้หลงเสน่ห์เธอนัก .. “
หทัยรัตน์กัดฟันกรอด แค้น อ้าปากจะเถียง .. เสียงสุดาก็ดังขึ้น เหมือนระฆังหมดยก “พี่ปุ๊พูดถูกจริงๆ ด้วย.. “