บทละครโทรทัศน์ หนึ่งในทรวง ตอนที่ 20 หน้า 5

หทัยรัตน์เดินเข้ามาในห้องนอน..หญิงสาวมองที่กระดาษการ์ดแต่งงานและครุ่นคิดด้วยความสับสน
อนวัชเดินเข้ามาในห้องนอน ทิ้งตัวนั่งอย่างหมดแรง..อนวัชคิดและมองไปที่กระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ และครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
สัทธายืนรอพรรณีอยู่ เขาค่อยๆหยิบกล่องแหวนแต่งงานมาดู และยิ้มมีความสุข
พรรณีเดินมา เห็นสัทธายืนหันหลังอยู่ พรรณีสูดลมหายใจลึกๆเข้าปอด “ขอโทษที่ทำให้พี่ปุ๊ต้องรอนะคะ..พอดีที่โรงเรียนเลิกช้ากว่าที่คิด”
สัทธารีบปิดกล่องแหวน ใส่กระเป๋า และหันมา “ไม่เป็นไรเลยจ้ะ รอณี .. นานกว่านี้พี่ก็รอได้”
พรรณีมองหน้าสัทธาแล้วสะเทือนใจ แต่ตัดใจพูด “แต่ณีไม่อยากให้พี่ปุ๊เสียเวลารอณีอีกแล้วค่ะ” สัทธาชะงักหุบยิ้ม พรรณีเสียงแข็ง พยายามใจแข็ง “พี่ปุ๊เสียเวลากับณีมามากแล้ว..ถึงเวลาที่เราจะต้องยอมรับความจริงแล้วค่ะ”
“ความจริง? ความจริงอะไร ณีพูดอะไร พี่งงไปหมดแล้ว”
“ความจริงที่ว่า..ความรักของเราไม่มีวันที่จะลงเอยกันได้ด้วยดี คุณแม่ไม่มีวันจะยอมรับ และเราสองคนไม่มีวันที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน...เราอย่าหลอกตัวเองกันต่อไปอีกเลยค่ะ..ถึงเวลาที่เราต้องหันหน้าสู้กับความเป็นจริงและแยกทางกันไปได้แล้ว”
สัทธาใจหายวาบ “แยกทาง?”
“ค่ะ .. “ พรรณีน้ำตาร่วง “ณีขอบคุณสำหรับความรัก ความปรารถนาดีที่มีให้กันมาตลอด..แต่เราเดินมาถึงปลายทางแล้ว ไปต่อไม่ได้...มันจะดีกว่าถ้าเราไม่ต้องเจอกันอีก!”
สัทธาตกใจอย่างแรง “ณี ... ณีพูดอะไรออกมา”
“ณีพูดความจริงค่ะพี่ปุ๊ .. “ พรรณีมองสัทธาเป็นครั้งสุดท้าย “ลาก่อนค่ะ”
สัทธาช็อค พรรณีค่อยๆหันหลังให้สัทธา น้ำตาไหลพราก ... และเดินจากมาอย่างเจ็บปวด สัทธาอึ้งชอค..ทำอะไรไม่ถูก คาดไม่ถึง เขาแทบทรุด ต้องจับราวสะพานไว้
พรรณีเดินร้องไห้มาหยุดในมุมที่ไม่มีคน..หญิงสาวร้องไห้ปล่อยโฮออกมา
สัทธาค่อยๆหยิบกล่องแหวนออกมาดู แล้วก็ยิ่งเศร้า
ที่บ้านพนัสพงษ์ นวลหน้าระรื่นมาก “ณีเลิกกับไอ้สัทธาแล้วเหรอลูก?? ต๊ายข่าวดีมากๆเลย โอ้ยยยย แม่ดีใจ๊ ดีใจ” พรรณีชะงักอึ้งนิดๆ กับความร่าเริงของแม่ นวลรู้ตัวรีบสำรวมอารมณ์ “เอ่อ.. แล้ว..ทำไมถึงได้ไปเลิกกับมันล่ะ?”
“ณีไม่อยากทำให้คุณแม่คิดมากอีกแล้วค่ะ ที่ผ่านมาณีทั้งโกหก ทั้งดื้อ ณีอยากจะแก้ไขความผิดที่เคยทำไว้ .. ต่อจากนี้ไปณีจะไม่สร้างปัญหาให้คุณแม่ต้องเสียใจ หรือคิดมากอีกแล้ว โดยเฉพาะเรื่อง...ความรัก”
นวลรีบเข้ามาพูดดีด้วย “ดีแล้วลูก ณีคิดถูกแล้ว..ลูกกตัญญูก็ต้องทำแบบนี้ แม่ฟังแล้วก็ชื่นใจ” นวลรีบทำเป็นบีบน้ำตา “นี่ซึ้ง...พูดแล้วซึ้งขึ้นมาเลย ดูดู๊...น้ำตามันจะไหล โธ่...ลูกรักของแม่” นวลดึงพรรณีเข้ามากอด “ลูกคิดได้แบบนี้แสดงว่าคราวหน้าถ้าแม่หาผู้ชายรวยๆ เอ่อ ดีๆ มาให้ลูกก็ไม่ปฎิเสธแล้วใช่มั้ยลูก”
พรรณีกอดนวลตอบ “ค่ะแม่...ถ้าแม่เห็นว่าใครดี .. ณีก็เห็นดีด้วยค่ะ” พรรณียอมแต่โดยดี