บทละครโทรทัศน์ หนึ่งในทรวง ตอนที่ 3 หน้า 2
นวลยังตีหน้า บีบเสียงน่าสงสาร “น้าอยากจะขอความกรุณาให้คุณหนึ่งช่วยไปพูดกับตานิจหน่อยได้มั้ยคะ ? เผื่อว่าเค้าจะยอมฟัง และตาสว่าง ตัดใจจากเด็กนั่นเสียที ... วันพรุ่งนี้ตานิจอยู่บ้าน..ถ้าคุณหนึ่งพอมีเวลา น้าอยากจะเชิญมาทานของว่างที่บ้านพนัสพงษ์..ไม่ทราบว่าคุณหนึ่งสะดวกหรือเปล่าคะ ?”
อนวัชนิ่งคิด ...
คืนนั้น ที่บ้านพนัสพงษ์ พินิจ พรรณี และ นวลนั่งคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน พรรณีนั่งอ่านหนังสือ ไม่ได้สนใจมากนัก
พินิจดีใจ “หนึ่งจะมาหาผมวันพรุ่งนี้ ดีจริง..”
“ดีสิ ถ้าไม่ดี ฉันไม่ลงทุนไปหาถึงบ้านหรอก” พินิจชะงัก นวลหันมาทางพรรณี “แม่ณีอยู่ต้อนรับคุณอนวัชด้วยนะ“
พรรณีเงยหน้าด้วยความสงสัย “ทำไมล่ะค่ะ เค้ามาหาพี่นิจนะคะไม่ได้มาหาณี แล้วคนรับใช้บ้านเราก็เยอะแยะ คงจะดูแลได้”
“ก็แม่อยากให้เราอยู่ จะได้ทำความรู้จักกับคุณอนวัช เค้าทั้งหล่อ ทั้งรวย เพียบพร้อมทุกอย่าง เราจะได้ออกมาจากโลกแคบๆของตัวเอง แล้วก็เห็นว่ายังมีผู้ชายอีกมากที่ดีกว่าพี่ชายของยัยเด็กใจดำคนนั้น” พรรณีหมดอารมณ์อ่านหนังสือเลย ปิดหนังสือ หน้าเซ็ง “อย่าคิดนะว่าแม่จะไม่รู้เรื่องของเรากับอีตาปุ๊ ตอนแม่ไปเก็บค่าเช่าแผงที่ตลาด คนเค้าลือกันให้ทั่วว่าเราไปดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว กับมันสองต่อสอง แม่สั่งห้ามไว้เลยนะทีหลังอย่าไปกับมันอีก”
พรรณีเศร้า นวลด่าต่อ “ยศแค่ร้อยโทอย่าหวังจะได้มาเป็นลูกเขยคุณนายนวล ที่สำคัญถ้าดองกับมัน ก็ไม่พ้นต้องไปเจอกับนังเด็กกำพร้านั่น พี่เราก็ตัดใจจากมันไม่ได้สักที คนที่จะเข้ามาร่วมชายคาพนัสพงษ์ไม่ว่าจะเป็นเขย หรือ สะใภ้” นวลปรายตามาทางพินิจ “จะต้องมีสมบัติไม่น้อยไปกว่าที่แม่มีอยู่..จำไว้ทั้งสองคน !!”
พินิจเศร้า หันไปมองพรรณีด้วยความเห็นใจ ... พินิจรู้ว่าตัวเองไม่มีหวังเพราะหทัยรัตน์ไม่สนใจ แต่สำหรับพรรณีต่างกันที่ ทั้งพรรณีและสัทธารักกัน..พินิจจึงรู้สึกเห็นใจพรรณีมากกว่าตัวเอง พรรณีเศร้า
พรรณีเล่นขิมอยู่ในห้องนอน..เสียงขิมเศร้าๆ เหงาๆ พรรณีเล่นขิมไปด้วยความคิดถึงสัทธา
ส่วนพินิจกำลังวาดรูปหทัยรัตน์โดยใช้ดินสอดำ วาดลงบนกระดาษวาดรูปที่หนีบไว้กับขาตั้งกลางห้อง พินิจคิดถึงหทัยรัตน์
อดีตในมหาวิทยาลัย พินิจ พรรณี ยืนคู่กัน สุดา สัทธา และหทัยรัตน์ยืนเรียง
พรรณีแนะนำ “แป้น ปุ้ม นี่พี่นิจ...พี่ชายเราเอง พี่นิจเรียนที่นี่เหมือนกัน”
“สวัสดีค่ะ”
พินิจรับไหว้และมองหทัยรัตน์ ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
“พรรณี..นี่พี่ปุ๊ พี่ชายเรา ไม่ได้เรียนที่นี่หรอก วันนี้แค่มารับเรากับปุ้ม”
พรรณียกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ”