บทละครโทรทัศน์ สุสานคนเป็น ตอนที่ 11
อุษาเดินตามจรัลออกมาที่ทางเดินในโรงพยาบาล
อุษารีบบอก “คุณอาคะษาขอโทษที่น้าชีพพูดจาดูหมิ่นคุณอา”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ถือ ถ้าเขายังไม่ฟังใครเขาก็ต้องรับทุกข์ทรมานอยู่แบบนั้น วิญญาณคุณนายลั่นทมไม่มีทางปล่อยเขาแน่ และใครก็ช่วยไม่ได้”
จรัลยิ้มให้อุษา ก่อนจะเดินไป อุษาอึ้งสีหน้ากังวลมาก หยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรออก
บริเวณที่ชีพประสบอุบัติเหตุ ธารินทร์กำลังสอบปากคำชาวบ้านคนหนึ่งที่อ้ำอึ้งอึกอักเหลียวซ้ายแลขวา
“คือ...หมวดครับถ้าผมพูดผมก็อยู่ไม่ได้”
“ถ้าไม่พูดวันหนึ่งคุณเองจะโดนพวกนี้ทุบหัวชิงของ แถมลูกหลานคุณอาจจะโดนด้วย...ผมรับรองจะไม่บอกใครว่ารู้จากคุณ”
ชาวบ้านคนเดิมอ้ำอึ้ง เสียงโทรศัพท์มือถือธารินทร์ดัง ธารินทร์หันไปพยักหน้าให้ลูกน้องสอบต่อ ตัวเองเดินเลี่ยงมาพูดโทรศัพท์ “ว่าไงครับษา ผมคิดอยู่แล้วว่าน้าชีพจะไม่ฟัง อย่ากังวลไปเลยคุณได้ช่วยเขาเต็มที่แล้ว อ๋อตอนนี้ผมสอบปากคำชาวบ้านอยู่คิดว่าน่าจะได้ของของน้าชีพกับรสคืนแล้วผมจะโทรหานะครับ”
ธารินทร์เดินกลับมาหาชาวบ้านคนเดิมตำรวจรีบบอก “ยอมบอกแล้วครับหมวด”
“ดี..งั้นพาไปเลย”
มุมหนึ่งในป่า ชาวบ้าน 2 คน เดินลับๆล่อ ลัดเลาะเข้าไปในป่า ไม่ไกลกันชาวบ้านพาธารินทร์และตำรวจในเครื่องแบบ 2 นายแอบอยู่ในดงไม้เงียบกริบ เฝ้าดู ชาวบ้านคนที่พามากระซิบ “ไอ้สองคนนี่แหละครับ แต่คนอื่นๆผมไม่แน่ใจ”
“กลับไปได้แล้ว”
ชาวบ้านไหว้ธารินทร์แล้วรีบกลับออกไป ธารินทร์เตรียมพร้อม เห็นชาวบ้าน 2-3 คนเดิมถือเสื้อชีพม้วนๆห่อของมีค่าพากันไปที่พงหญ้ารกๆ ชาวบ้าน 2 คนเดิมหยิบของมีค่าออกมาดูกันอย่างมีความสุข
“ซ่อนไว้แถวนี้ก่อนล่ะวะไว้เรื่องเงียบแล้วค่อยมาขุดไปขาย”
“เออ..ดีเหมือนกัน รีบช่วยกันขุดเร็ว”
ว่าแล้วก็ช่วยกันรีบขุดกันจนเป็นหลุม ห่อเสื้อเหมือนเดิมวางในหลุม เอาดินกลบ..ธารินทร์หันไปพยักหน้ากับตำรวจ ทั้งหมดพากันออกมา “ทุกคนเอามือไว้บนหัว ค่อยๆหันหน้ามา”
ทุกคนตกใจทำตามคำสั่ง เห็นเป็นตำรวจก็ขาอ่อน