บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 17 หน้า 2
หน้าเรือนบุษกร หมอหลวงลงบันได แล้วแทบลงไปกองกับพื้นด้วยความกลัวเพราะกัมพูมาถึงพอดี “ท่านมหาพราหมณ์” หมอหลวงเสียงสั่น
“ท่านมาเยี่ยมตรวจดูอาการลูกสาวข้ารึ ท่านหมอ”
“สุดแท้แต่ท่านจะมีคำสั่ง ข้าก็เป็นแค่หมอ แต่อำนาจบารมีท่านอยู่เหนือคนทั้งปวง”
“คำสรรเสริญนั้นข้าไม่แปลกใจ หากเจ้าหมายถึงองค์สูริยะ”
“ท่านคือผู้รับคำสั่งจากเทวะเป็นผู้กำชะตากรรมคนทั้งปวง สิ่งที่ข้ากล่าวหาได้ผิดความจริงไม่”
“ลูกสาวข้า นางแข็งแรงสุขสบายดีรึ”
“ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านบัญชาและประสงค์ให้เป็นไป”
“เจ้าตอบไม่ตรงคำถามที่ข้าอยากรู้ ข้าสั่งอะไร ข้าประสงค์สิ่งไร” หมอหลวงลนลานตัวสั่น
“ท่านพ่อ” กัมพูหันมาเห็นบุษกรที่กำลังลงบันไดมา “ท่านหมอก็มาตรวจดูอาการของลูกเพราะเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะมีอาการแพ้ท้องมากจนกินไม่ได้เท่านั้นเอง ท่านไปเถอะท่านหมอ พ่อข้าก็แค่เป็นห่วงหลานในครรภ์ข้าเท่านั้นเอง”
หมอหลวงทำความเคารพกัมพูก่อนรีบจากไป กัมพูมองตามหมอหลวงไปอย่างอดสงสัยไม่ได้ บุษกรฉีกยิ้มละไม เมื่อหันมาเจอสายตากัมพูที่มองมา
บนเรือนบุษกร กัมพูเข้าเรื่องทันที “ถึงองค์อริยะจะมิได้พาดพิงถึงใครที่เป็นต้นเหตุแห่งความบาดหมาง แต่พ่อคิดว่า พ่อเดาไม่ผิดความทะยานอยากของเจ้ากำลังทำร้ายผู้อื่น..บุษกร”
“ท่านพ่อพูดถึงอะไร ลูกไม่เข้าใจ” บุษกรตีหน้าซื่อ
“ไม่มีใครรู้จักเจ้าดีไปกว่าพ่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายไปได้ก็จากเจ้าคนเดียว ไปสารภาพกับองค์อริยะเสียว่าเป็นเรื่องที่เจ้าเข้าใจผิดไปเอง”
บุษกรเสียงสั่นเครือ “ท่านพ่อ..ลูกไม่ได้รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ท่านพ่อกล่าวหาปรักปรำลูกเยี่ยงนี้ ลูกเสียใจ...ในสายตาท่านพ่อ เรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันคงเพราะลูกเป็นต้นเหตุทั้งหมดสินะ” บุษกรทำน้ำตาไหลปริ่มนอง “ลูกจะต้องทำเยี่ยงนั้นทำไม ในเมื่ออีกไม่นานลูกก็จะเป็นพระชายาที่ให้กำเนิดองค์รัชทายาทต่อไปอยู่แล้ว ลูกไม่คิดเลยว่าความริษยาของคนที่กำลังสูญเสียอำนาจบารมีจะทำร้ายผู้อื่นได้ยิ่งกว่าคมหอกคมดาบเยี่ยงนี้” บุษกรทำฟูมฟาย
กัมพูละเหี่ยใจ บุษกรทำเสียงกระซิกร้องไห้..แต่หน้าเรียบเย็นซ่อนความโหดเอาไว้
ท้องพระโรง วังสูริยะ เกศอาภายังหมอบเฝ้าสูริยะตามลำพัง
“เจ้าก็เหมือนลูกสาวของข้า หากจะต้องหันหลังให้กันด้วยเรื่องระหองระแหงเท่านี้ ก็เป็นเรื่องน่าเสียใจ” สูริยะเอ็นดูเกศอาภาไม่น้อย
“ข้าทนอยู่ทุกวันนี้ก็ด้วยความรักแต่ในเมื่อความรักมันได้จางหายไปสิ้นแล้ว ข้าก็ไม่เห็นประโยชน์ว่าจะต้องทนอยู่ไปเพื่อสิ่งไร”
“แล้วเจ้าเข้ามาตรงนี้ด้วยเหตุไร”
“บัญชาจากองค์เทวะ”