บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 8 หน้า 2
“ท่านมิได้เห็นแก่ความสุขของลูกเลย แล้วจักให้ลูกคิดเป็นอื่นได้อย่างไรกัน”
“เจ้าฟังพ่อให้ดี ระหว่างความรักที่พ่อมีต่อลูก กับภาระหน้าที่ต่อแผ่นดิน พ่อมิอาจเห็นแก่ตัวได้ เราคือเชื้อสายผู้ถือบัญชาเทวะ แล้วเจ้าจักบีบบังคับให้พ่อทรยศต่อภาระหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไร”
ที่ลำธาร อริยะพยายามปลอบเกศอาภา “เจ้าอาจตีตนไปก่อนไข้ เจ้าบ่าวของเจ้าเขาอาจเป็นคนดีอย่างหาที่ติมิได้ ก็เป็นไปได้มิใช่รึ”
“เจ้าเป็นผู้ชายจักมาเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงได้อย่างไร”
“คนที่เจ้าจักฝากชีวิตไว้กับเขาเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเท่านั้นมิเพียงพออีกรึ ที่เจ้าจักเป็นเจ้าสาวของเขา”
“แล้วความรักเล่า..เจ้ามิพูดถึงความรักเลยรึไร”
“อยู่กินกันไป ข้าว่าเจ้าก็จักรักเขาไปเอง” อริยะยิ้ม
“ผู้ชายมีความคิดเยี่ยงเจ้าทุกคนอย่างนั้นรึ”
“แล้วผู้หญิงมีความคิดเยี่ยงเจ้าทุกคนรึไม่”
“ข้ามิรู้ได้ เคราะห์กรรมตกแก่ข้ารึไร จึงต้องเป็นเช่นนี้ หญิงที่เหมาะสมกว่าข้าก็มี ไยเขาต้องมาจำเพาะที่ตัวข้า..ไยมิแต่งกับนาง” เกศอาภาตัดพ้อ
ที่เรือนกัมพู บุษกรตัดพ้อต่อว่า “ไยต้องเป็นนาง ไยมิเป็นข้า เทวะลำเอียง ข้ารักของข้ามานานเท่าไรแล้ว เทวะมิได้รับรู้รึไร”
“เจ้าเลิกคร่ำครวญเสียทีเถิด หากเจ้ามีความรักต่อองค์อริยะจริง จงร่วมกันอวยพรแลยินดีในความสุขในวันอภิเษกของท่านเถิด” บุษกรกัดฟันแน่นฟังที่กัมพูพูด “เราเกิดมาเพื่ออุทิศตนทำงานรับใช้เทวะแลราชบัลลังก์ จงภาคภูมิใจในภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงนั้นเถิดบุษกร”
บุษกรไม่ตอบโต้ แต่กล้ำกลืนความเจ็บแค้นนั้นไว้ในใจ
ชายป่า เกศอาภา อริยะเดินมาด้วยกันจนถึงทางแยก
เกศอาภาหยุดเดินกล่าวลา“ข้าต้องไปตามทางของข้าแล้ว ขอบใจเจ้าที่อุตส่าห์รับฟังความทุกข์ในใจข้า”
อริยะยิ้ม “ถ้าความทุกข์ในใจเจ้าพอทุเลาลงได้บ้าง ข้าก็ยินดี”
“ข้าจักมิลืมเพื่อนที่ดีเยี่ยงเจ้าเลยเจ้าโจรป่า เราจักมิได้พบกันอีกเลยใช่รึไม่”
“หากยังมิสิ้นลมหายใจ ก็คงได้พบกันอีก แต่จักนานเพียงใดข้าเองก็มิรู้ได้ คืนวันพรุ่งข้าจักต้องออกเดินทางแล้ว”
เกศอาภาใจหาย “คืนวันพรุ่ง”
“ข้าคงมุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือ”
“ปลายทางเจ้าคือที่ใด”