บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 9 หน้า 5
“ผ้าพวกนี้ต้องเอาแยกออกมา อย่าให้ปะปนกัน เข้าใจรึไม่” แม้เกศอาภาจะเห็นแต่ด้านหลังอุษาที่ถูกบังมิด แต่ก็จำเสียงอุษาได้
“อุษา” อุษาหันและโผล่หน้าออกมา ยิ้มหน้าระรื่น “เจ้ามาได้อย่างไร ข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่ทีเดียว เจ้ารู้เรื่องของข้าได้อย่างไรกัน”
“ข้าไม่รู้อะไรเลยจนกระทั่งกลับเรือนไปเจอท่านพ่อของเจ้านั่นแหละ”
“อุษา...ข้าเหมือนคนโง่ที่ถูกหลอก”
“เจ้าจะคิดมากไปไย ถึงขนาดนี้แล้วแก้ไขสิ่งไรก็มิได้ แลมิควรแก้ไขด้วยเพราะทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามบัญชาเทวะ ข้าว่าตอนนี้เจ้าก็แค่ว้าวุ่นใจที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเท่านั้น”
“เล็กน้อยอะไรกัน”
“ก็แค่เวลากินคนที่นั่งกินกับเจ้ามิใช่ข้า เวลานอนคนที่นอนข้างๆ เจ้าก็มิใช่ข้าเท่านั้นเอง...แต่เป็น” อุษาหัวเราะคิกคัก
“อุษา” อุษาพยายามกลั้นหัวเราะ “แล้วนี่เจ้ามาเยี่ยมข้าเฉยๆ รึไร”
“มิได้...ข้าเข้ามาดูแลเจ้าเยี่ยงเดิมนั้นแหละ”
“เจ้าตามข้ามาอยู่ที่นี่ แล้วท่านพ่อข้าเล่า ผู้ใดจักดูแล”
“เจ้ามิต้องเป็นห่วงไปดอก...ผู้ที่ไล่ตะเพิดข้าให้มาอยู่คอยดูแลเจ้า ก็เป็นท่านพ่อของเจ้าเองนั่นแหละ”
วันใหม่ อริยะเดินมุ่งหน้าไปจะเข้าเฝ้าสูริยะ
บุษกรที่ซุ่มรอจังหวะอยู่แล้วเพื่อดักพบ ทำทีเป็นเดินสวนมา “ท่าน...” บุษกรทำทีเป็นเลี่ยงหลบเปิดทางเดินให้อริยะเดินก่อน ตัวเองยอบตัวลงต่ำเหมือนคุกเข่า
“บุษกร...เจ้าจะไปไหนแต่เช้า” อริยะเอ่ยทัก
“ข้ามาเก็บดอกไม้ถวายองค์เทวะ”
“ขอบใจเจ้านักที่ช่วยดูแลปราสาทเทวะเป็นอย่างดี” อริยะจะเดินจากไปอยู่แล้วแต่ต้องชะงัก
“ชีวิตที่เหลือของข้า คงถวายแก่องค์เทวะแต่เพียงผู้เดียว”
“ไยเจ้าสิ้นหวังถึงเพียงนั้น”
“ข้าคงเกิดมาอาภัพ แม้แต่รักเดียวของข้ายังมิสมหวัง” บุษกรทำฝืนยิ้มแต่น้ำตาไหลท้น
อริยะใจอ่อน สงสาร เอื้อมมือมาแตะหัวบุษกรปลอบโยน “ข้าหวังว่าเจ้าจักมิต้องจมอยู่ในทุกข์นี้อีกนาน”
บุษกรกุมมืออริยะไว้เคลียแก้มตัวเอง “ผิดไปจากท่าน ชาตินี้ข้าก็ไม่ขอมีใคร ชีวิตนี้ข้าถวายแก่เทวะแต่เพียงผู้เดียว ถึงแม้ว่าในหัวใจข้าจักต้องเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม”
เวลาเดียวกัน อีกมุมในสวน เกศอาภากับอุษาพากันเดินออกมาเพื่อเก็บดอกไม้เหมือนกัน เกศอาภาชะงักฝีเท้าทันทีเพราะเห็น...