บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 5 หน้า 3
เรือนรับรอง มิ่งหล้าค่อยๆผละออกจากอกศุขวงศ์
“ครั้งนี้น้องอับจนปัญญาจริงๆ แต่ก็ดีที่เป็นโอกาสให้ได้ รู้ใจ รู้ความเมตตาของเจ้าพี่...ความจริงเรื่องนี้แม้นเมืองก็อาสานะเจ้า”
“อาสา...หมายความว่าอย่างไร”
“แม้นเมืองอาสาจะไปเมืองมัณฑ์ เขาไม่เคยรักใครเกินกว่าหน้าที่และบรรพบุรุษอยู่แล้ว” มิ่งหล้าเยาะ
“แม้นเมืองยินดีทำทุกอย่างตามความต้องการของเจ้าพ่อและเจ้าพี่หน่อเมือง ขอแต่เพียงให้สิ่งนั้นเป็นผลประโยชน์ของเชียงเงิน แต่เมืองมัณฑ์ไม่ต้องการแม้นเมือง เขาระบุมาชัดเจนว่าต้องการตัวน้อง ซึ่งอยู่ในฐานะราชธิดา” ศุขวงศ์ ตัวชา เสียความรู้สึก
“กล้าหาญ...คิดไปถึงการหลอกลวงเมืองมัณฑ์ด้วยการสลับตัวกันเลยนะเจ้า หลอกว่าแม้นเมืองคือมิ่งหล้า แต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง เชียงเงินเล็กเกินไป และเมืองมัณฑ์ก็ใหญ่เกินไป คนอย่างแม้นเมือง ไม่มีหัวใจรักใครได้หรอก นอกจากบ้านเมือง” ศุขวงศ์เสียความรู้สึกต่อแม้นเมืองเป็นทวีคุณ
วิหารวัดคงคาคำ บริวารมิ่งหล้า ยังปักหลักนั่งคอยมิ่งหล้าด้านนอกวิหารซึ่งปิดประตูไว้ แม้นเมือง เดินมาถึง “น้องข้าเล่า”
“เจ้ามิ่งหล้า อยู่ในวิหารเจ้า” แม้นเมืองตรงไปที่ประตู ผลักประตูจะเปิด “เจ้าเปิ้นกำลังสวดมนต์อยู่เจ้า”
“แล้วทำไม พวกเจ้าปล่อยให้น้องข้าอยู่คนเดียว”
“เจ้าเปิ้นสั่งให้ทุกคนออกมาเจ้า เปิ้นต้องการอยู่คนเดียวตามลำพัง สวดมนต์เสร็จเมื่อใด เปิ้นจะออกมาเองเจ้า” ยิ่งผิดวิสัย มิ่งหล้า แม้นเมืองทั้งรู้สึกแปลกและเป็นห่วง
เรือนรับรอง ศุขวงศ์วางแผน
“ออกเดินทางแต่เช้า คงต้องพักกลางวัน แถวเขาช่องขาดพอดี พี่จะไปดักรอมิ่งหล้าที่นั่น”
“น้องจะนุ่งซิ่นเชิงปักสีม่วง จะสวมเสื้อสีดอกตะแบก เจ้าพี่จะได้สังเกตเห็นน้องได้ง่ายๆ”
“ตกลงตามนี้ พี่จะไปดักคอยที่ช่องเขาขาดแต่เช้า แต่อย่างไรเสีย...พี่ขอลองพูดกับหน่อเมืองและเจ้าพ่อของเจ้าดูอีกครั้งนะมิ่งหล้า”
“ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกเจ้าพี่ อะไรก็เปลี่ยนใจพวกเขาไม่ได้”
“มิ่งหล้าต้องเข้าใจด้วยว่าการกระทำ อย่างนี้มันกระทบกระเทือนและหมิ่นเกียรติ พวกเขามาก ถึงจะไม่มีใครรู้ แต่พี่ก็รู้ ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมรับรู้ความเป็นไปของโลกจริงๆ พี่ก็จะช่วยมิ่งหล้าทำตามแผนการของมิ่งหล้า พี่สัญญา”
“ชีวิตและจิตใจของน้องอยู่ ในมือเจ้าพี่คนเดียวแล้วจริงๆ”