บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 14
ตำหนักมิ่งหล้า โสร่ง เสื้อ ผ้าโพกหัว ชุดมหาดเล็ก ถูกโยนไปกองไว้ทางหนึ่ง
“เอาไปกำจัดเสียให้สิ้นซากฟองจันทร์”
“เจ้า..เจ้ามิ่งหล้า” ฟองจันทร์รวบผ้ากองนั้นมัดรวมจนเป็นก้อนเล็ก
มิ่งหล้าสางผมที่ปล่อยยาว เต็มหลังให้ตัวเอง
“ข้าเจ้าใจคอบ่ดี อดเป็นห่วงเจ้าบ่ ได้”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้า เจ้าจะออกไปช่วยข้าไหม ฟองจันทร์”
“ข้าเจ้าให้สัญญาเป็นมั่นเหมาะ กับเจ้าแม้นเมืองไว้ ว่าจะดูแลเจ้าด้วยชีวิตของข้าเจ้าเอง”
รอยยิ้มบนหน้ามิ่งหล้าค่อยๆเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินชื่อแม้นเมือง
“ข้าควรจะขอบใจนังพี่สาวตัวดีของข้าใช่ไหมฟองจันทร์ อย่างน้อยมันก็ให้บทเรียนที่เจ็บปวดแก่ข้า จงอย่าไว้ใจใคร นอกจากตัวของข้าเอง เพราะในโลกนี้มันมีแต่การทรยศหักหลัง หลอกลวง”
ฟองจันทร์ได้แต่ก้มหน้า มิ่งหล้าค่อยๆแบมือข้างหนึ่งออก อวดสิ่งที่อยู่ในมือ แหวนที่กษัตริย์ถอดให้เป็นรางวัลอยู่ตรงหน้าฟองจันทร์
“นี่คือรางวัลจากสติปัญญาความกล้าหาญของข้าเอง สักวันเถอะฟองจันทร์ ที่นั่งของอีมิ่นจะเป็นของเจ้า” ฟองจันทร์กังวล แต่พูดอะไรไม่ออก
ห้องนอนคุ้มเจ้าศุขวงศ์ แม้นเมืองละเมอเอะอะกับความฝัน “ระวัง...อย่า...อย่าไปทางนั้น..อย่า..”
ศุขวงศ์สะดุ้งตื่น คว้ามือแม้นเมืองมากุมไว้ “แม้นเมือง แม้นเมือง”
แม้นเมืองตื่นขึ้น..ฝันนั้นน่ากลัวจนแม้นเมืองร้องให้
“น้องฝันร้ายอีกแล้วแม้นเมือง มันก็แค่ความฝัน..อย่ากลัวไปเลย” แม้นเมืองยังสะอื้นเหมือนใจจะขาด
“เล่าให้พี่ฟังได้ไหม ว่าน้องเห็นอะไรในความฝัน อย่าเก็บความกลัวไว้คนเดียวเลย”
“ข้าเจ้าเห็นมิ่งหล้ากำลังวิ่งอยู่ ในความมืด มิ่งหล้าวิ่งหนีบางอย่างที่น่ากลัวจนล้มลุกคลุกคลาน เนื้อตัวมีแต่เลือด ข้าเจ้าเรียกให้มาหาข้าเจ้า แต่มิ่งหล้าก็ไม่ได้ยิน มิ่งหล้ามองไม่เห็นข้าเจ้า มองไม่เห็นแม้กระทั่งทางกำลังวิ่งไปว่ามันคือหน้าผาสูง”
แม้นเมืองร้องให้จนตัวสั่น ศุขวงศ์สวมกอดแม้นเมืองเอาไว้
“ฝันร้ายมักกลายเป็นดีเสมอ..น้องแค่กังวล เป็นห่วงมิ่งหล้าเกินไปเท่านั้นเอง..พี่อยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว” แม้นเมืองค่อยดีขึ้นในอ้อมกอดศุขวงศ์