บทละครโทรทัศน์ คมแฝก ตอนที่ 22 หน้า 10

ท่าทางปอนๆเดินกระเผลกขาลากมาตามฟุตบาท มือหนึ่งหิ้วถุงใส่กับข้าวของพะรุงพะรง อีกมือหนึ่งถือขวดเหล้าหนีบไว้ใต้วงแขน และขณะที่กำลังไขกุญแจประตู “ลุงครับ”
ลุงประชาหันมาเห็นองอาจ ดวงใจและเพลิงยกมือไหว้ สักครู่ ลุงประชายิ้มจำได้ “องอาจ”
ห้องรับแขกสำนักพิมพ์เสียงลุงประชา ดวงใจกำลังเล่นกับแมวอยู่ที่มุมหนึ่ง แว่วยินเสียงหัวเราะมาจากโต๊ะรับแขก องอาจกับเพลิงกำลังนั่งดื่มกับลุงประชาที่กำลังรินเหล้าแจกจ่าย
“จะเข้ากรุงเทพต้องเดินทางอีกหลายชั่วโมง ไหนๆก็ผ่านมาทั้งที คืนนี้อยู่ค้างซักคืนนะไอ้หลานชาย จะได้ฉลองกันหน่อย” ลุงประชายิ้มรื่นพลางส่งเหล้าอีกแก้วให้เพลิง
“เอ้า ดื่มเป็นเพื่อนกันหน่อยนะไอ้หนุ่ม แก้เหงา” เพลิงยิ้มรับ องอาจถือโอกาสนั้นอธิบาย
“ลุงประชาเป็นเพื่อนรักของพ่อฉันเอง แกเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เสียงประชา เคยเป็นสื่อยักษ์ใหญ่อยู่สมัยหนึ่ง”
“ฮื๊อ ใหญ่ที่ไหน สมัยนั้นมีหนังสือพิมพ์อยู่แค่สองฉบับ ไอ้ที่มีชื่อเสียงบ้างก็เพราะพ่อขององอาจเค้านั่นแหละ”
ดวงใจได้ยินคำว่าพ่อก็หันมองมา สีหน้าลุงประชาดูเศร้าเมื่อนึกถึงความหลัง
“เขียนข่าวไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม จนถูกหมายหัว” ลุงประชาสลด “อุตส่าห์รอดมาได้ตั้งนาน แต่สุดท้ายก็ต้องมาตายเพราะไอ้แสน” องอาจพลอยสลดไปด้วย ดวงใจหันกลับไปเล่นกับแมวต่อซึมๆ ส่วนเพลิงนึกแปลกใจ “คุณพ่อขององอาจเคยเขียนข่าวพาดพิงนายแสนเหรอครับลุง”
“ไม่เคย ขนาดไอ้สนพ่อมัน เราก็ยังไม่เคยไปยุ่ง”
“เห็นดวงใจเคยบอกผมว่าข่าวสุดท้ายที่พ่อเขียนเป็นข่าวเกี่ยวกับแหล่งนํ้ามันเหรอครับ”
ลุงประชานิ่งไปเหมือนรู้สึกสะท้าน จนเพลิงนึกแปลกใจ
ป่าละเมาะชานเมืองพล กัลป์ยืนกอดอกพิงต้นไม้เหงา ณ ที่ที่เขากับอัญชันเคยพูดคุยกันแล้วหวนนึกถึงความหลัง เมื่อกัลป์กับอัญชันโต้เถียงกัน
“ภูผาเพลิง ศพของพ่อแม่ผมฝังอยู่ที่นั่น ศพของอาจารย์อัคนีก็ถูกฝังอยู่ที่หน้าถํ้ามหากาฬ ผมหนีไม่ได้หรอก คุณพาพวกเราทุกคนหนีไปเถอะ อัญชัน...คำพูดเดียวที่ผมอยากจะฝากกับคุณก็คือ ถ้าผมตาย... ศพของผมจะต้องฝังอยู่บนแผ่นดินนี้ ผมต้องการทวงความยุติธรรมให้กับคนที่ผมรัก”
เสียงกัลป์ดุดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนกับอัญชัน จนอีกฝ่ายรู้สึกเจ็บปวดและบีบคั้นในใจที่สุด
ท่ามกลางแสงตะเกียงเห็นนํ้าตาอัญชันเอ่อล้นนองหน้า
“คุณต้องการแบบนี้ใช่ไหม ถ้าคุณไม่ไป ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น”