บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 1 หน้า 4
พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ พระยาพิชัยชาญฤทธิ์ เดินนำ หลวงยกกระบัตรเมืองตาก เข้ามายังบริเวณพระราชฐานชั้นกลาง และตรงไปยัง “พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์” อันเป็นที่ประทับในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเพลานี้
พระยาพิชัยชาญฤทธิ์ และหลวงยกกระบัตรเมืองตากเดินขึ้นไปยังบันไดมุขพระมหาปราสาท มหาดเล็กชาวที่หมอบอยู่ที่หน้าพระทวาร หลวงยกกระบัตรเมืองตาก พระยาพิชัยชาญฤทธิ์ เดินมาคุยกับหัวหน้ามหาดเล็ก
หลวงยกกระบัตรเมืองตาก : เสด็จทรงจงกรมอยู่ใช่ไหม
มหาดเล็ก : ใช่ขอรับ... คุณหลวง
หลวงยกกระบัตรเมืองตาก : ใครเข้าเฝ้าอยู่บ้าง
มหาดเล็ก : มีคุณทองด้วงและคุณบุนนาคขอรับ นี่ก็ใกล้เวลาที่จะทรงพักผ่อนพระอิริยาบถแล้วขอรับ
พระยาพิชัย : เชิญคุณหลวง
ลำแสงจากพระบัญชรและแสงจากโคมที่จุดอยู่เป็นระยะ เปลวเทียนจำนวนมากที่จุดบูชาองค์พระพุทธรูปที่ส่องมลังมเลือง ทำให้ทุกอณูในพระที่นั่งนั้นแลดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปอีก คุณทองด้วงบุตรชายพระอักษรสุนทรศาสตร์ วัย 24 และ คุณบุนนาค บุตรชายหลวงจ่าแสนยากร วัย 25 หมอบเข้าเฝ้าถวายงานอยู่ที่มุมหนึ่ง ทั้งสองท่านนี้ได้เคยถวายตัวเป็นมหาดเล็กห้องพระบรรทมในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศพร้อมกับคุณสิน หรือหลวงยกกระบัตรเมืองตาก ตั้งแต่ยังเยาว์วัย ทั้งสามท่านจึงเป็นสหายสนิท และมีความคุ้นเคยการใช้ชีวิตในราชสำนักอย่างลึกซึ้งและได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถวายการรับใช้ใกล้ชิดเบื้องยุคลบาทมาถึง 3 แผ่นดิน พระยาพิชัยชาญฤทธิ์ และหลวงยกกระบัตรเมืองตาก ก้มลงถวายบังคมองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความสักการะยิ่ง ลำแสงจากพระบัญชรใหญ่ส่องมาต้องพระวรกาย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศ” ในขณะที่เสด็จจงกรมอย่างสงบนิ่ง แลดูงามมลังเมลือง ด้วยพระบรมราศีสมกับทรงเป็นพระสมมุติเทวราชา แม้จะทรงพระราชดำเนินผินพระวรกายเพียงเบื้องหลัง พระภูษาสีขาวบริสุทธิ์ขับพระฉวีให้ดูงามผ่องแผ้วประดุจนักพรตในสวรรค์นคร มากกว่าเป็นมนุษย์ปุถุชน คุณทองด้วง และ คุณบุนนาค เหลือบตามามองหลวงยกกระบัตรเมืองตากด้วยความคิดถึง หลวงยกกระบัตรเมืองตาก สบตาเพื่อนรัก แล้วก้มหน้าลงยิ้ม เป็นครั้งแรกที่ดวงพักตร์ของท่าน คลายความกังวลลงบ้าง
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศทรงยุติการเสด็จจงกรม ทุกคนในที่นั้นก้มลงถวายบังคม เหล่าพระกำนัลนารี (ขันที) เชิญเครื่องพระสุพรรณภาชน์ เข้าสู่ที่เสวย นำขบวนโดย พระกำนัลนารีสังข์ น้องชายแท้ๆ ของเจ้าพระยาพลเทพ
พระกำนัลนารีสังข์ : กราบบังคมทูลด้วยเสียงอันดัง
กำนัลนารีสังข์ : ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเครื่องพระสุพรรณภาชน์เพคะ
พระกำนัลนารี อีกสองนางนำพระภูษาคล้ายครุยแต่ขลิบด้วยเงิน ถวายให้ทรงสวมจากเบื้องพระปฤษฎางค์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศรับสั่งด้วยพระสุรเสียงกังวาน