บทละครโทรทัศน์ ตะวันตัดบูรพา ตอนที่ 17 หน้า 5
เคี้ยงมองปรามดุๆ จ๊อดได้ถอยไปหามุมสงบนั่งหลบภัย สักครู่บูรพาก็เดินคอตกกลับเข้ามา
เคี้ยงคาดคั้น “แกหายไปไหนมาทั้งวัน โทรศัพท์ไปก็ไม่ยอมรับสาย”
บูรพาหย่อนตัวลงนั่งอย่างอ่อนเพลีย ก่อนจะให้คำตอบ “ท่านรองบารมีส่งคนไปทำร้ายพ่อผม”
เคี้ยงอึ้ง “อะไรนะ”
“ลุงได้ยินแล้ว มันเคยขู่ผมเอาไว้อย่างนั้นแล้วมันก็ทำจริงๆ”
“ทำไมมันต้องทำอย่างนั้น ทำไมมันไม่เล่นงานแก”
“ถ้าฆ่าผมตายก็มีคนต่อไปมาแทน แต่ถ้าทำแบบนี้….ไม่มีใครกล้าขึ้นเป็นหัวหน้าอีกแน่”
เคี้ยงเครียด “ท่านรองบารมี…นี่งานแรกเราก็ต้องเจอศึกใหญ่แล้วเหรอ”
เจิมฉัตรเดินออกมาจากไนท์คลับ เห็นสมุนที่เฝ้าไนท์คลับสองสามคนพากันก้มหัวให้ “กลับแล้วเหรอครับคุณเจิมฉัตร”
“อือ ฝากดูที่เหลือด้วยล่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรไปบอกฉัน”
“จะให้ตามเด็กขับรถให้มั้ยครับ”
“ไม่ต้อง ฉันขับเอง”
เจิมฉัตรเดินมาที่รถและกดรีโมท…ก่อนจะขึ้นไปนั่ง…เจิมฉัตรพลิกกระจกหน้าส่องดูลิปสติคเล็กน้อยก่อนจะสตาร์ทรถ แต่ทว่ารถสตาร์ทไม่ติด เจิมฉัตรรู้สึกประหลาดใจ กวาดมองออกไปรอบตัวเห็นว่าค่อนข้างเปลี่ยว ก็เริ่มใจคอไม่ดี พอดีเหลือบเห็นคนใส่ชุดยามยืนอยู่ก็ค่อยใจชื้น เปิดประตูลงไปเรียก “นั่นใครอยู่ตรงนั้นน่ะ มาช่วยดูรถให้ฉันหน่อยซิ” ยามยืนนิ่ง “นี่หูแตกเรียกไม่ได้ยินหรือไง มาช่วยดูรถให้ฉันหน่อยเป็นอะไรถึงสตาร์ทไม่ติดก็ไม่รู้”
ยามซึ่งยืนอยู่ในเงามืดนั้น โยนอะไรออกมาตรงหน้าเจิมฉัตรก้มลงมองและพบว่ามันคือ..ชิ้นส่วนบางชิ้นของรถที่ถอดออกแล้วจะสตาร์ทไม่ติด
เจิมฉัตรหน้าซีดเงยหน้ามองไป เห็นคนในเงามืดเดินออกมาปรากฏว่าเป็นชัชชัย “อีตัวแสบ”
เจิมฉัตรหวีดร้องเสียงหลงขยับจะเข้ารถ ชัชชัยชักมีดสปาต้ารี่เข้ามา เจิมฉัตรตัดสินใจทิ้งรถวิ่งหนีแต่เห็นว่าจวนตัวก็เลยได้แต่วิ่งไปรอบๆรถ “อย่านะชัชชัย อย่าทำอะไรฉัน ฉันไม่รู้เรื่อง”
“ใช่ฉันรู้ ฉันเชื่อว่าเธอไม่รู้เรื่อง มานี่สิเจิมฉัตรมาหาฉัน แล้วเราจะได้คุยกันไงล่ะ” ชัชชัยเงื้อมีดฟันเจิมฉัตร เธอก้มหัวหลบมีดฟันโดนเสาปูนเป็นประกาย เจิมฉัตรกรีดร้องวิ่งหนีต่อ ชัชชัยไล่ล่าไปติดๆ แต่แล้วก็ชะงักกุมท้อง….เห็นมีรอยเลือดชุ่มออกมา “ไอ้ระยำ แผลกู….” เจิมฉัตรเห็นได้โอกาสก็ขยับจะหนี แต่ชัชชัยจะก็ปาดมีดขวางไว้
“มึงจะหนีไปไหนอีเจิมฉัตร อีนกสองหัว คนอย่างมึงมันดวงกินผัวแท้ๆ ใครได้มึงเป็นเมียก็มีแต่ความฉิบหาย”
เจิมฉัตรทั้งเหนื่อยทั้งกลัว พอเครียดจัดเข้าก็เลือดขึ้นหน้า เถียงสวนไปบ้าง “เออ..ใช่ แกก็คนหนึ่งล่ะ ขอให้ฉิบหายๆอย่างที่ว่าเหอะ”