รีเซต

บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอนที่ 13 หน้า 5

บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอนที่ 13 หน้า 5
11 กุมภาพันธ์ 2557 ( 01:38 )
1.2M
คุ้มนางครวญตอนที่ 13
7 หน้า
ที่หอสูงคุ้มร้างซึ่งตั้งทะมึนอยู่ในความมืด ยอดหล้าอยู่บนตั่งในมือมีซึง นางผัน นางเผื่อนยืนอยู่ด้านหลังห่างออกไป “จงนอนเถิด  ดาราราย  น้องสาวสุดที่รักของข้า  ข้าจะเล่นซึงขับกล่อมเจ้าเอง”
ยอดหล้าแย้มยิ้มเหี้ยมเกรียม นิ้วยอดหล้ากรีดลงบนสายซึง  เสียงซึงดังสะท้อนสะท้านไป คลื่นนั้นพุ่งไปยังเรือนหนึ่งอันเป็นห้องพักพิมพ์ดาว พิมพ์ดาว พิมพ์เดือนและแพทหลับสนิท ยอดหล้ายิ้มแย้ม
“จงหวนกลับ...หวนกลับไปสู่กาลก่อนเมื่อ 200 ปีล่วงมา”
พิมพ์ดาวคิ้วขมวดมุ่น ยอดหล้าดวงตาเจิดจ้า ลุกเรืองแผ่ออกไป 2 ด้านของใบหน้า
“ว่าเจ้าทรยศตระบัดสัตย์  ทวนคำมั่นสัญญาของเจ้าเช่นใดบ้าง”
พิมพ์ดาวผวาลุกขึ้น
 
พิมพ์ดาวเลือนไปเป็นดารารายในเสื้อผ้าของบุรุษฐานะพ่อค้า กำลังเดินทางกลับเวียงแก้วทางเรือ กองขบวนเรือพ่อค้า  เป็นเรือประทุนหลายลำ  บางเรือเป็นเรือบรรทุกสินค้าจนเพียบล่องมาตามแม่น้ำปิง  แสงยามเช้าเรื่อเรืองขึ้นเป็นแนวต้นไม้ริมฝั่งขนัดแน่น  บ้านเรือนริมน้ำชาวบ้านเริ่มทำกิจกรรมยามเช้า  ไกลออกไปเห็นยอดเรือน  หอสูงหลังคาคุ้มยอดเจดีย์โผล่ขึ้นจากแนวไม้
ที่ศาลาท่าน้ำ  เจ้าหลวงแสงอินทรยืนหน้าเคร่งอยู่กับเจ้านางสร้อยคำ ทางด้านหลังมีขุนหาญคนสนิท และนางข้าไทคนสนิทนั่งคุกเข่าอยู่  ที่กลางศาลาดารารายนั่งคุกเข่าพนมมือท่าทางเกรงกลัวแต่ดวงตายังสนุกสนาน  ในขณะที่นางทิพย์ นางทิมมีอาการหวาดหวั่นเจียนตาย
“เจ้ากล้าดีนักดาราราย เจ้าเป็นเจ้านางสูงศักดิ์แห่งเวียงแก้วแต่กลับลอบหนีไปเที่ยวลำพังถึงเชียงรุ่ง บังอาจ
ยิ่งนัก”
”ข้าเจ้ามิได้ไปลำพังเจ้า เจ้าพ่อ  พี่ทิพย์ พี่ทิมก็ไปด้วย”
นางทิพย์  นางทิมหมอบต่ำลงไปอีก  เจ้าแสงอินทร  มองตาขุ่น
“ว่าอันใด  นังสองคน  ใยเจ้ารู้เห็นเป็นใจกับลูกข้า”
“ฮือ  เจ้านางน้อย  บอกข้าบาทสองคนว่า  ได้ขอประทานอนุญาตแล้วเจ้า” นางทิพย์ร่ำไห้
“ฮือ จริงเจ้า”
“ก็ข้าเจ้าขอแล้วจริงๆ นี่เจ้า”
“เจ้าขอผู้ใด”
“ขอเจ้าแม่เจ้า  เจ้าแม่ก็อนุญาตแล้ว”
สร้อยคำค้อนลูกตาคว่ำ “เจ้าขอข้าอันใด วันนั้นเจ้ามาหาข้าพูดงุบงิบๆ ว่าขอไปหาท่านตา”
“ข้าเจ้าบอกว่าเจ้าตาต่างหาก”
เจ้าหลวงแสงอินทรเข้าใจความเจ้าเล่ห์ของลูกสาว ดวงตาเริ่มขบขัน  สร้อยคำเต้น
“เจ้าบอกว่าท่านตาข้าก็คิดว่า เจ้าหมายถึงท่านตาครูบาสรีที่อาศรมกลางเวียง ใครจะรู้ว่าเจ้าแอบแร่หนีไปหาเจ้าพ่อข้าถึงเชียงรุ่ง”
“เจ้าตาฝากของมาถวายเจ้าพ่อเจ้าแม่ด้วยเจ้า”
เจ้าหลวงแสงอินทรกลั้นยิ้มไว้ ทำดุ
“เจ้าไม่ต้องเอาข้าวของมาบังหน้า  เจ้ามันมากเล่ห์เพทุบายนัก”
“มิใช่นะเจ้า  เจ้าแม่ฟังไม่ดีเองเจ้า”
“งั้นหรือ นี่แน่ะ”
สร้อยคำก้าวไปหยิกต้นแขนลูกสาว  ดารารายทำโอดโอย
 
“อ้อ  กลับมาแล้วหรือ” สร้อยคำ ดาราราย ชะงัก หันไปเห็นเจ้านางหอมุก และนางข้าไทคนสนิท ก้าวมากับยอดหล้า นางผัน นางเผื่อนตามหลัง สร้อยคำยิ้มแกมเชิดเล็กน้อย ดารารายก้มกราบ หอมุกกับยอดหล้า  
“กลับมาแล้วเจ้า  เจ้าพี่ กำลังสอบสวนทวนความอยู่  เรื่องรกหูรกตาเช่นนี้ เจ้าพี่อย่าสนใจเลยเจ้า”
เจ้านางหอมุกจับหางเสียงได้ ก็เชิดหน้าบ้าง
“นี่เจ้าว่าข้าแส่อย่างนั้นหรือ สร้อยคำ”
“เจ้าพี่  ผู้ใดจะหาญกล้าว่าเจ้าพี่เช่นนั้นเจ้า”
“ว่าได้หรือ”
ยอดหล้าบีบแขนแม่  ส่ายหน้าขอร้อง “เจ้าแม่เจ้า”
เจ้านางหอมุกเชิดหน้าก้าวไปยืนเคียงข้างเจ้าแสงอินทร เจ้าหลวงมีอาการอึดอัด
“อย่างใดเจ้า  ลูกสาวคนโปรดของเจ้าพี่หนีไปเที่ยวที่ใด”
เจ้าหลวงยังไม่ทันตอบ  ดารารายก็สอด “ผิดแล้วเจ้า แม่เจ้า”
หอมุกค้อน “ผิดอันใด”
”เจ้าพี่ต่างหากที่เป็นคนโปรด มิใช่ข้าเจ้าเจ้า”
ดารารายลอยหน้ามีอาการไม่ลงรอยกับพี่สาว  หอมุกถลึงตา  สร้อยคำจับแขนลูกสาวเหมือนปลอบใจ  เจ้าหลวงแสงอินทรมีอาการปวดเศียรเวียนเกล้า
“พอ พอได้แล้ว เลิกต่อคำต่อความกันเสียที  ข้าปวดหัวเต็มทนแล้ว  ไป ไปให้พ้นหน้าข้า”
“อันใดกันเจ้า  ดารารายทำผิด  เจ้าพี่จะปล่อยให้ลอยนวลหรือเจ้า”
แสงอินทรชะงัก  สร้อยคำโกรธเลยมีอาการคล้ายจะตีลูกประชด
“ใช้แล้วเจ้า  เจ้าพี่หอมุกทรงธรรมสมเป็นแม่เมือง  ลูกข้าทำผิดต้องลงโทษให้หลาบจำเจ้า”
ดารารายเม้มปากเชิดหน้า  นางทิพย์ นางทิมยิ่งหน้าเสีย
“จะลงโทษสถานใด ข้ายินดีเจ้า”
“เจ้ามิต้องท้าทายข้า  ดาราราย” เจ้าแสงอินทรดุ
ยอดหล้าก้าวมา “เจ้าพ่อเจ้า”
“อันใดหรือลูก  ยอดหล้า”
“ข้าเจ้า  ขอเป็นคนลงโทษดารารายเองเจ้า”
ดารารายตาขวางมองยอดหล้า ยอดหล้าเมิน
“ฮึ  ให้เจ้าลงโทษ จะมีอันใดอย่างมากก็ตี 2-3 แปะ แล้วก็ให้ปักผ้าเย็บตอง” หอมุกไม่เห็นด้วย
”ไม่เอานะ  อย่างนี้เอาข้าไปโยงมือเฆี่ยนดีกว่าเจ้า”
ดารารายพรั่นพรึง  ยอดหล้ายิ้มเยาะ
“ถ้าเช่นนั้น  ข้าขอยกดารารายให้เจ้าลงโทษ  ยอดหล้า” เจ้าแสงอินทรอนุญาต
สร้อยคำสงสารลูกแต่ก็เบาใจ  หอมุกสะใจ  

7 หน้า