บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอน 11 หน้า 4
ในโลกวิญญาณ ยอดหล้าก้าวมาในความมืด
“ท่านอาจารย์ ท่านอยู่ที่ใดกัน”
ยอดหล้าหลับตาลง สำรวมจิต แล้วลืมตาขึ้นใหม่ คล้ายมีม่านหมอกแห่งมิติเปิดออก เบื้องหน้ายอดหล้ากลายเป็นดินแดนเวิ้งว้างว่างเปล่า เบื้องล่างเป็นพื้นดินแตกระแหงไกลสุดลูกหูลูกตา ที่ขอบฟ้ามีเขาเป็นหินผาแหลม เสียดยอดระเกะระกะ ที่บนฟ้าดูโล่งกว้าง มีเมฆเคลื่อนพยับโพยม แปรรูปวูบวับอยู่ทุกวินาที ยอดหล้าก้าวไปในดินแดนนั้น
แก้วก้าวมาในคุ้มร้าง ในมือถือตะเกียงแบตเตอรี่ คุ้มร้างยามกลางคืนดูน่าสะพรึงกลัว แสงตะเกียงที่เคลื่อนที่ทำให้เกิดเงาวูบวาบ แก้วก้าวมาบริเวณเติ๋น บนยกพื้นมีตั่งวางซึงทิ้งไว้ แก้ววางตะเกียงลง หยิบซึงขึ้นมาลูบคลำ เหมือนมีความผูกพัน แล้วดีดซึงเบาๆ มีเสียงหัวเราะคิกคักฟังดูเย็นยะเยือก แก้วชะงักหันมา นางผัน นางเผื่อน ปรากฏร่างอยู่ตรงหน้าเป็นเงารางเลือน
“นายแก้ว” นางผัน นางเผื่อนถาม “ท่านทำอันใด”
แก้วไม่ตอบ ลุกขึ้น
“ซึงของเจ้านางยอดหล้า” นางผัน นางเผื่อน ยิ้มเยาะ แววตาดูรู้ทัน “ใยท่านจึงลูบคลำ ราวรักใคร่มันยิ่งนัก”
นางผัน นางเผื่อน ก้าวมา มือลูบคลำ “ท่านใยไม่ลูบคลำข้าเจ้า”
แล้วยื่นหน้ามาคลอเคลียแก้ว “เหมือนกับซึงนั้นบ้างเล่า”
แก้วยืนนิ่ง หน้าเฉยชา ดวงตารำคาญ “ปล่อย.. ไปให้พ้นนะ”
แก้วสะบัด นางผัน นางเผื่อน กระเด็นไป แล้วลุกพรวดขึ้น ดวงหน้ากลายเป็นปีศาจ “ท่านใยทำกับข้าเจ้าดังนี้ หรือว่าท่านหวังไว้สูง” ยื่นหน้า กางมือเล็บงอก ดูคุกคาม “มิชอบนางข้าไท แต่วาดหวังเจ้านางสูงศักดิ์”
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ” แก้วตวาด
นางผัน นางเผื่อน แสยะปากเห็นเขี้ยวซับซ้อนราวฟันปลา ยื่นหน้าคุกคามแก้ว กึ่งล้อเล่นกึ่งจริงๆ แก้วผงะ มีเสียงกราดเกรี้ยวดัง “ผัน เผื่อน เจ้าทำอันใด”
ยอดหล้าปรากฏกายขึ้น ดวงตาเจิดจ้า จิกผมนางผันเหวี่ยงไปปะทะข้างฝา แล้วตวัดมือตบนางเผื่อนลอยละลิ่วไปกองใกล้กัน 2 นางกลายร่างเป็นธรรมดาถอยกรูดๆลนลาน แก้วตั้งตัวได้ นางผัน นางเผื่อน หมอบราบกับพื้น ยอดหล้ากรายตัวมาก้มดู
“พวกเจ้า ทำอันใด”
“เจ้านางเจ้า” นางผัน นางเผื่อนแก้ตัว “พวกข้าเจ้า แค่หยอกล้อนายแก้วเล่นเจ้า”
ยอดหล้าไม่ได้เชื่อ มองดูแก้ว แก้วไม่รับ ไม่ปฏิเสธ
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ เจ้านาง”
ยอดหล้ามองปรามนางผัน นางเผื่อน 2 นางหลบตากราบกราน ยอดหล้ากรายกลับไปที่ตั่ง ณ จุดนั้นพลันมลังเมลืองเป็นงดงาม ยอดหล้าดีดซึงมากรีดเล่น แก้วก้าวไปใกล้
“เจ้านาง.. เจ้านางหายไปถึงสามวันสามคืน”
“เวลาในโลกวิญญาณ ไม่เท่ากับเวลาในโลกมนุษย์”
“เจ้านางพบเถรกระอำหรือเปล่าครับ”
ยอดหล้าขุ่นมัว หยิบซึงวางไว้ข้างตัว
“ข้าตามหาท่านอาจารย์ไม่พบ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับท่าน แล้วเจ้ารู้อันใด เรื่องทายาทครูบาสรีอีกบ้าง”
“มหาจรวยเคยบวชพระถึง 20 ปี แล้วสึกออกมาสอนพระธรรมชาวบ้าน และเป็นหมอเวทมนต์”
“บางที.. มันผู้นี้อาจรู้เรื่องท่านอาจารย์ของข้า”
ยอดหล้ารำพึงมองไปไกล แก้วมองยอดหล้า มีแววรักใคร่ลุ่มหลง