บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอน 11 หน้า 5
คุ้มหลวงตั้งตระหง่าน รถของคุ้มแล่นมาจอดลง ตาทองลงมากับมหาจรวย มหาจรวยมองดูคุ้ม แล้วหลับตาลงสำรวมจิต แล้วลืมตาขึ้นใหม่ ภาพคุ้มหลวงที่งดงามเรืองรองอยู่ในแสงแดด บางจุดมลังเมลืองเป็นสีทอง เลือนไปเหมือนมีเงาดำทาบอยู่ทั้งคุ้ม มหาจรวยทอดถอนใจ
ในห้องสมุด แก้วนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เซ็นเช็คแล้วเลื่อนไปให้มหาจรวย
“ผมขอสมทบทุนในการสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมด้วยครับ คุณมหา”
มหาจรวยมองแก้ว ข่มความรู้สึกไว้
“ผมขออนุโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้บุญกุศลนี้จงช่วยคุ้มครองคุณให้พ้นจากมารใดๆทั้งปวง”
แก้วนิ่งอั้น มีแววระแวงระวัง มหาจรวยยิ้มนิดๆ
บริเวณคุ้ม พิมพ์ดาวกับแพทเดินเล่นกันอยู่ในสวน
“สองสามวันมานี่ไม่มีเรื่องแปลกๆเลยนะคะ” แพทบ่น
“ที่พูดนี่อยากเจอใช่ไหมคะ”
แพทค้อนขวับ “ไม่เอานะคะ ขนาดไม่ได้เจอกับตัว หนูยังขี้ขึ้นไปอยู่บนสมองแล้ว”
พิมพ์ดาวกับแพทมองไปที่มุมหนึ่งของสวน มีการตั้งศาลเพียงตา มีเครื่องเซ่นสรวงเป็นขนม ผลไม้ ดอกไม้ จุดธูปเทียน มหาจรวยยืนหลับตาพนมมืออ่านอาคมอยู่ ตาทองถือขันเงินใส่ทรายสีขาวสะอาด สายใจ เฟื่องฟ้า ระริน คนงานชายทั้ง 2 ยืนพนมมือดูอยู่
“พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ
จงบังเกิดกำแพงแก้วล้อมรอบคุ้มหลวง ณ บัดนี้เถิด”
พิมพ์ดาวและแพทขนลุกเกรียว
ทันใดเกิดลมพัดกรูเกรียวมา ตาทอง เฟื่องฟ้า ระริน คนงานเลื่อมใส มหาจรวยพยักหน้า ตาทองก้าวมา มหาจรวยล้วงมือในขัน กำทรายเสกขึ้นมาเป่าพรวด แล้วเงื้อมือ
“หยุด!” แก้วตะโกนห้าม
มหาจรวยชะงัก ทุกคนหันไป เห็นแก้วเข้ามา หน้าตาเคร่งเครียด
พิมพ์ดาวกับแพทสบตากัน
“เอ้อ คุณแก้ว” ตาทองอึกอัก
“ทำอะไรกัน” แก้วถาม
“ศาลอารักษ์ล้มไป คุ้มนี้ไม่มีอะไรคุ้มกัน ผมจะทำกำแพงแก้วล้อมคุ้มนี้ไว้ชั่วคราว”
แก้วมองมหาจรวยตาขุ่น มหาจรวยสงบ มีแววยิ้มนิดๆ
“เหลวไหล กำแพงแก้วอะไรกัน”
“คุณแก้วขอรับ มหาจรวยทำได้จริงๆนะครับ”
“คุณแก้วเจ้าขา ทำเถอะค่ะ เรื่องร้ายๆจะได้กลายเป็นดี” สายใจสนับสนุน
แก้วตวาด “ไม่! เลิกทำพิธีอะไรนี่เดี๋ยวนี้”
“โธ่ คุณแก้วครับ”
“อย่าขัดคุณแก้วเลย ลุงทอง”
ตาทอง สายใจ หน้าเสีย แก้วขบกราม ท่าทีอ่อนลงนิดหนึ่ง
“ไปส่งมหาจรวยให้เรียบร้อย ผมขอตัวก่อน คุณมหา”
แก้วหมุนตัวเดินจากไป มหาจรวยสงบนิ่ง ตาทอง สายใจ ทำหน้าขอโทษขอโพย
“คุณแก้วเป็นคนสมัยใหม่ เลยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้น่ะ ท่านมหา”
มหาจรวยมองตามหลังแก้ว พลางยิ้มนิดๆ มหาจรวยมองมายังพิมพ์ดาว แล้วก้มหัวให้เหมือนทัก พิมพ์ดาวงงนิดๆ ยิ้มตอบ
“ใครหรือคะ” แพทถาม
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
วันเสาร์ อาทิตย์ ไม่มีการถ่ายทำละคร พิมพ์ดาวอยู่หน้าตู้หนังสือในห้องสมุด เอามือระไปตามสันหนังสือเก่าทั้งพงศาวดารล้านนา ปู่เจ้าลาวจก พงศาวดารหริภุญไชย ราชวงศ์มังราย ตำนานเมืองเหนือ พิมพ์ดาวหยิบหนังสือเล่มหนึ่งมา ปกแข็งเดินทอง แต่ไม่หนานัก ดูเก่าแก่ หน้าปกเขียนว่า พงศาวดารเวียงแก้ว พิมพ์ดาวพลิกอ่านอย่างสนใจ
ศาลากลางสวนมีการจัดอาหารกลางวันไม่มากนัก เพราะทีมงานและนักแสดงจำนวนหนึ่งออกไปข้างนอก
พิมพ์ดาวถือหนังสือพงศาวดารเวียงแก้วมา เห็นที่มุมหนึ่ง ตรีภพเอาหมอนมากองๆ แล้วนั่งเอนหลับอยู่ พิมพ์ดาวทำจมูกย่น เดินมานั่งไม่ห่างนัก แล้วมองดูตรีภพ พิมพ์ดาวนึกถึงตอนที่ทั้งคู่เอาหลังชนกันสู้กับพวกจิ๊กโก๋ พิมพ์ดาวอมยิ้ม ทันใดภาพหนึ่งก็แวบมา เป็นภาพเจ้านางดารารายในชุดผู้ชาย กับหลวงเทพในชุดชาวบ้าน ถือดาบในมือ ดารารายมีหน้าไม้สะพายด้วย เอาหลังชนกันสู้กับโจรป่า พิมพ์ดาวผงะ ดวงตาเบิกกว้าง
“อะไรกัน“
ตรีภพสะดุ้งตื่น มองเห็นพิมพ์ดาว “หือม์.. อะไรน่ะคุณ”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“โธ่ ผมกำลังฝันสนุกๆอยู่เลย คุณมาทำผมตกใจตื่นซะได้”
พิมพ์ดาวหมั่นไส้ “นี่ที่สำหรับกินข้าว ไม่ใช่ที่สำหรับฝันหวาน”
“โธ่ เมื่อคืนนี้กว่าจะเสร็จเรื่องกับตำรวจ ก็เข้าไปตีสี่ กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า เออ คุณ เรื่องที่ผมกับคุณช่วยกันลุยเรื่องนักเลงน่ะ ผมถึงขั้นเก็บไปฝันเลยนะ”
พิมพ์ดาวหมั่นไส้มากขึ้น “ฝันอะไรอีกล่ะ ขยันฝันจริง”
“ผมฝันเห็นคุณกับผมหันหลังชนกันต่อสู้กับพวกโจร แต่แต่งตัวแบบโบราณ เหมือนเป็นยุคเดียวกับในละครเรื่องนี้”
พิมพ์ดาวตาเบิกกว้าง ตกตะลึงจังงัง “อะไรนะ”
“ก็แค่ผมฝันเพ้อเจ้อ ทำไมคุณต้องตกอกตกใจขนาดนั้น”
พิมพ์ดาวไม่ตอบ ทั้งพิศวงและหวาดกลัว
เที่ยงคืน คืนนั้น มาลารินก็วางยานอนหลับบีบีเพื่อที่จะหลบออกมานอกห้องอีก มาลารินในชุดนอนกรุยกรายเดินมาตามทางเดินเชื่อมเรือนต่างๆ ผ่านหน้าห้องหนึ่ง มีมือมาปิดปากมาลาริน มาลารินเบิกตากว้าง เจ้าของมือฉุดมาลารินเข้าห้องไป ราเชนทร์ปล่อยมือจากมาลาริน มาลารินตาวาว ตบผัวะเข้าเต็มแก้มราเชนทร์
“ยูทำบ้าอะไร”
“แล้วยูล่ะ ทำอะไร ดึกขนาดนี้ยังจะย่องไปไหน”
“ไอหิว กำลังไปหาของกิน”
ราเชนทร์หัวเราะก๊าก “ของกิน! ไส้กรอกหรือไส้อั่ว ยูจะไปกินไอ้ตรีล่ะซี”
มาลารินยักไหล่ “อดอยากปากแห้งมาหลายวันแล้ว”
มาลารินไปนั่งไขว่ห้างบนเตียง ชุดนอนแหวก เห็นชุดชั้นในสั้นจู๋ข้างใน
“คุณพิมพ์กับไอ้ตรีนี่ยังไงกันแน่ เป็นแฟนกันหรือเปล่า”
“เป็นหรือไม่เป็นไม่ใช่เรื่องของไอ”
“ยังไง จะกินแค่หนสองหนหรือ”
มาลารินกัดริมฝีปาก ครุ่นคิด “ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งชอบ.. ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
“เปลี่ยนใจยังไง”
“ไอจะแย่งคุณตรีมาจากยายพิมพ์ดาวให้ได้”
“เอ้า เวร”
“แล้วยูก็ต้องช่วยไอด้วย.. จัดการยายพิมพ์ดาวให้ไอที”
“งานถนัดอยู่แล้ว”