บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอน 9 หน้า 2
ถึงเวลาอาหารกลางวัน พิมพ์ดาว แพท ตรีภพ นั่งกินอาหารกลางวันกันที่ศาลา พิมพ์ดาวยังคงครุ่นคิด ตรีภพ
อ่านบท แพทมองดูทั้งคู่แล้วอมยิ้ม
“ต่อบทกันถึงไหนแล้วคะ” แพทซัก
“พี่ยังไม่ได้อ่านซักตัว”
แพทอมยิ้ม ลดเสียงลงอีก
“แล้วที่เข้าไปต่อบทกันในห้องล่ะคะ”
พิมพ์ดาวชะงัก ตรีภพสะดุ้ง พิมพ์ดาวพูดประชดตามนิสัย
“อ๋อ นั่นไม่ได้เข้าไปต่อบทค่ะ ไปทำอย่างอื่น”
ตรีภพสะดุ้งมองหน้า พิมพ์ดาวมองตอบตาขุ่น
“นี่คุณ ทำไมพูดอย่างงั้น”
“อุ๊ย คุณตรี พี่พิมพ์ แพทไม่พูดไปหรอกค่ะ”
แพททำท่ารูดซิปปาก
สายใจซุบซิบกับตาทองอยู่ที่โต๊ะวางอาหาร ตาทองเข้ามาหากลุ่มตรีภพ คุกเข่าลง
“อ้าว มีอะไรครับ คุณตา”
“พวกคุณยังไม่ได้นี่เลย คนอื่นๆได้กันหมดแล้ว”
ตาทองส่งสายสิญจน์ให้ ตรีภพรับมางงๆ
”เป็นธรรมเนียมต้อนรับของที่นี่น่ะครับ สวมไว้เป็นศิริมงคล”
“อ๋อครับ มิน่า ผมเห็นคนที่นี่กับทีมงานละครใส่กันหลายคน”
“ไม่ใช่เพราะที่นี่มี.. เอ้อ ผีนะคะ” แพทผวา
ตาทองทำหน้าเย็นชา “เรื่องแบบนี้ ไม่มีใครรู้แน่หรอกครับ”
ตาทองถอยไป แพทรีบคว้ามาคล้องคอก่อนเพื่อน ตรีภพส่งให้พิมพ์ดาว พิมพ์ดาวสั่นหน้า
“ฉันไม่เอาดีกว่า”
“ลืมไปว่า คุณไม่เชื่อเรื่องพวกนี้”
“หนูเก็บไว้ให้เองค่ะ” แพทรับไปแทน ตรีภพเอามาสวมบ้าง มองพิมพ์ดาว พิมพ์ดาวนิ่ง มือแตะนอกเสื้อ
คลำเขี้ยวเสือไฟ ในใจสับสนกับความฝันและสิ่งที่เจอเมื่อช่วงเช้า
แก้วพาฐาปกรณ์และทีมงานมาพบพ่อเลี้ยงธาดา เพื่อขอใช้รีสอร์ทหรูของพ่อเลี้ยง เป็นโลเคชั่นถ่ายทำ พ่อเลี้ยงธาดา
ยิ้มย่องผ่องใส พาแก้ว ฐาปกรณ์ ลูกกบ รัก เบิ้ม เดินทัวร์ รีสอร์ท
“ทางเรายินดีให้คณะละครของคุณมาถ่ายได้ครับ”
“ขอบพระคุณมากครับ พ่อเลี้ยง แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายนี่จะยังไงครับ” ฐาปกรณ์ถาม
“เรื่องนี้ไว้คุยกันทีหลัง แต่คุณแก้วพามาทั้งที ผมอาจจะไม่คิดค่าสถานที่ก็ได้นะครับ”
พ่อเลี้ยงดูแสนดีสุดๆ แก้วยิ้มเย็นชา ฐาปกรณ์ดีใจแทบกระโดด ลูกกบ เบิ้ม รัก งง ไม่คิดว่ามีคนดีแบบนี้ในโลก
“งั้นผมก็ต้องขอบคุณล่วงหน้า” แก้วพูด
“ผมต่างหาก ต้องขอขอบพระคุณพ่อเลี้ยง”
“ผมต่างหากต้องขอบคุณ เพราะเท่ากับได้โปรโมทรีสอร์ทของผมด้วย”
ธาดาพามาถึงทางแยก มีป้าย ผาน้ำตก บ่อน้ำพุร้อน
“ทางด้านหลังนี่มีบ่อน้ำพุร้อน บรรยากาศดีมากเชียวครับ.. แล้วตามแนวลำธารนี้ไปราว 1 กิโลเมตร ก็มีผาน้ำตก
รับรองว่าสวยไม่แพ้ที่ไหนแน่นอน”
“แปลว่าที่นี่ที่เดียวมีทุกอย่างที่เราต้องการ ขอบพระคุณจริงๆครับ พ่อเลี้ยง”
“ยังไงก็ขอให้ผมได้ไปดูการถ่ายทำบ้างก็แล้วกันครับ”
“ได้ซะยิ่งกว่าได้ซะอีก ใช่ไหม.. แก้ว”
“ยินดีครับ พ่อเลี้ยง”
ธาดายิ้ม ยืนอยู่ในละอองน้ำพุ ดูมีราศีบุญล้อมตัว
ที่สนามแข่งรถ รถแข่งแล่นมาจอด ราเชนทร์ในชุดแข่งเลื้อยออกมาจากรถ พอดีมีโทรศัพท์เข้า “ใครวะ ยุ่งจริง”
ราเชนทร์เห็นชื่อพ่อเลี้ยงธาดาที่หน้าจอ ท่าทางเปลี่ยนเป็นคอหด รีบรับโทรศัพท์
“ครับ.. พ่อเลี้ยง”
“เฮ้ย ไอ้เชน นายรู้จักกองละครที่มาถ่ายทำที่คุ้มเวียงแก้วไหม” พ่อเลี้ยงธาดาถาม
ที่ห้องทำงานฐาปกรณ์ มาดามสุแต่งตัวแบบเดินทาง กางเกงฟิต เสื้อยืดคว้านอกตามเคย ที่ข้างโต๊ะมีกระเป๋าเดินทาง
ใบใหญ่มหึมาวางอยู่ มาดามสุกำลังโทรศัพท์วุ่น
“เออ พรุ่งนี้มีบวงสรวง แล้วก็เปิดกล้องเอาฤกษ์เอาชัย อีพวกนักข่าวที่ตกลงกันไว้ มันแคนเซิลกันกว่าครึ่ง เจ็บใจ
จริงๆ เออ หล่อนหาไปเพิ่มให้ได้นะยะ อ้อ เดี๋ยว”
มาดามสุรับโทรศัพท์อีกเครื่อง
“ฮัลโหล.. หา อะไรนะ จากรายการคนค้นผี.. จะเดินทางไปด้วย.. เดี๋ยว เดี๋ยว ใครติดต่อ อ้าว ฮัลโหล อีเวร สายหลุด”
หันไปพูดกับเครื่องแรกต่อ “นี่.. อ้าว วางหูไปแล้ว อีนี่ ฉันบอกให้รอ อีโลชก!”
มาดามสุอารมณ์เสีย หน้างอ ปาโทรศัพท์ลงโซฟาพลางร้องกรี๊ดๆ มีร่างสูงเพรียวเข้าประกบจากเบื้องหลัง เอามือกอดเอว
มาดามสุไว้
“ฮัลโหล”
“ว้าย”
“ทายซิครับ ใครเอ่ย”
ราเชนทร์ก้มลงดมดอมซอกคอ มาดามสุสยิวกาย รู้ว่าใครแต่แกล้งพูด
“ว้าย ใครกันนี่ เจมส์จิ หรือแบรี่ หรือว่าน้องโอ้”
ราเชนทร์เซ็ง คลายมือออก มาดามสุหันมามองราเชนทร์ตาวาว
“ฮึ จำผมไม่ได้ ผมน้อยใจนะ”
“โถ ทำไมฉันต้องจำได้ล่ะ”
สุชาดานั่งบนโต๊ะ ราเชนทร์ทำตาอ้อน
“หายหัวไปเดือนปี จู่ๆก็โผล่มา.. เธอจะเอาอะไรอีกล่ะ”
“โธ่ ผมก็มีเรื่องยุ่งๆของผมตลอดแหละ แต่ผมก็ยังคิดถึงพี่ตลอด”
“ฉันไม่เชื่อย่ะ”
ราเชนทร์เข้าตระกองกอดอีก มาดามสุหัวเราะระริกระรี้
“โธ่ ทำยังไงนะถึงจะเชื่อ”
ราเชนทร์ก้มลงซุกไซ้ซอกคอ แล้วต่ำลง มาดามสุผวา
“ว้าย ว้าย เชื่อแล้ว พี่เชื่อแล้ว”
“พี่สุ ผมอยากเล่นละคร พี่มีละครให้ผมลงไหม”
มาดามสุผลักราเชนทร์ล้มลงไปบนโซฟา
”ฮึ ฉันกะอยู่แล้วเชียว ไม่มี ฉันจะเลิกทำละครแล้ว”
“ผมไม่เชื่อพี่หรอก นี่แน่ะ” ราเชนทร์ดึงสุชาดา ล้มลงทาบกันไปบนโซฟา
สุชาดาเดินทางมาถึงคุ้มหลวงพร้อมราเชนทร์ และเอ็ดดี้ ผู้จัดการส่วนตัวของราเชนทร์ ที่หน้าตาดูคล้ายโจร
บีบีกับมาลารินตกใจที่เห็นหน้าราเชนทร์ แต่ต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน มาดามสุเดินนำเข้าคุ้มไปก่อน
มาลารินมองราเชนทร์ตาเขียว
“ยูมาทำไม แดม”
“ไม่ได้มาแคร์เธอหรอกน่า ไปพี่..”
ราเชนทร์ชวนเอ็ดดี้เดินเข้าคุ้มไป มาลารินสบตาบีบี กังวลเล็กน้อย ราเชนทร์เดินผ่านเฟื่องฟ้า ระริน แล้วยักคิ้ว
ทำตาเยิ้มใส่
“หวัดดีครับ แหม สาวเหนือนี่น่ารักแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าฮะ”
เฟื่องฟ้าคิกคักเอียงอาย ราเชนทร์กับเอ็ดดี้เข้าไป
“ต๊าย นังเฟื่อง นี่มันไอ้โจร ดาวร้ายนะยะ” ระรินว่า
“ดาวร้าย โบราณ เดี๋ยวนี้เค้าเรียกแบดบอยย่ะ”
ที่ห้องนอนของฐาปกรณ์ มาดามสุเบิกตาโพลง
“ไอ้แก้ว ให้เราถ่ายทำฟรีๆ”
“ที่พัก ทั้งนักแสดง ทั้งทีมงานก็ฟรี”
“น้องแก้วของพี่”
“น้ำ ไฟ อาหงอาหาร มันจัดแจงให้เราหมด”
“โอ๊ย ตายแล้ว รวยอะไรอย่างนี้ ป๋าจริงๆ สมแล้วที่เป็นเจ้าเป็นเชื้อ”
มาดามสุเอามือกุมอก นั่งลงบนโซฟา พลางดูรอบๆห้อง
“ต๊าย เซฟไปเป็นล้านๆเลยนะนี่ กำไร กำไรเข้ากระเป๋าเหนาะๆ”
“เดี๋ยวก่อน แล้วทำไมจู่ๆคุณมาเปลี่ยนตัวขุนกล้าเป็นไอ้เชน”
“ฉันมาดูแล้ว บทนี่มีตั้งเยอะ ใช้เอ็กซ์ตร้าเล่นมันไม่น่าดู”
“ไอ้เชนนี่น่าดูตายล่ะ”
“มีคนชอบมันตั้งเยอะ”
“ทีอย่างนี้ล่ะไม่กลัวเปลือง”
มาดามสุเชิดใส่ผัว คว้าเครื่องคิดเลขมาคำนวณตัวเลขที่จะเอาเข้าพกเข้าห่อ พลางยิ้ม