รีเซต

บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอน 9 หน้า 3

บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอน 9 หน้า 3
3 กุมภาพันธ์ 2557 ( 17:52 )
1.2M
คุ้มนางครวญตอน 9
6 หน้า

 


เย็นนั้น ศาลากลางสวนเป็นที่จัดเลี้ยงมื้อเย็น แม้ไม่ใช่ขันโตก แต่ก็มีการจัดสำรับเป็นวงๆ วงแรกมีตรีภพ มาลาริน
บีบี ฐาปกรณ์ มาดามสุ และเว้นที่ไว้ให้แก้ว วงใกล้กันมีพิมพ์ดาว แพท ราเชนทร์ เอ็ดดี้ มีมี่ มูมู่ ถัดไปเป็นวงของ
นักแสดงอาวุโสทั้ง 6-7 คน ถัดไปเป็นทีมงาน 

บีบีสวมเครื่องเพชรวูบวาบ กำลังอวดแหวนที่ซื้อมาใหม่กับมาดามสุ ส่วนมาลารินก็ทำตาแป๋วกับตรีภพ จนตรีภพ
ไม่แน่ใจว่าคืนวันซ้อมบทคืออะไรกันแน่

“ทำไมคุณพิมพ์ไม่นั่งนี่ล่ะคะ”

“เขาคงอยากคุยกับเพื่อนใหม่มั้งครับ” ตรีภพเสียงขุ่นเล็กน้อย 

ที่อีกวง ราเชนทร์คุยกับพิมพ์ดาว ราเชนทร์พูดเล่น พิมพ์ดาวหัวเราะ ตรีภพหน้าบึ้ง มาลารินแอบยิ้มในหน้า แล้วทำท่า
กลัวๆ

“คุณราเชนทร์น่ะหรือคะ ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันอีก”

“โลกมันกลมเกินเหตุจริงๆ”

ตรีภพมองพิมพ์ดาวอย่างหมั่นไส้ 

พิมพ์ดาวกำลังคุยกับราเชนทร์ และแพท เกิดรู้สึกตัว มองมาเห็นสายตาตรีภพ ก็ขมวดคิ้ว ตรีภพทำหน้าไม่แยแส
พิมพ์ดาวก็ไม่สนใจหันไปคุยเล่นกับราเชนทร์ จนตรีภพอารมณ์เสีย มาลารินมองพฤติกรรม แล้วลอบยิ้มในหน้า

“คุณพิมพ์นี่เข้ากับคนง่ายนะคะ”

“คงงั้นมั้งครับ”

ระหว่างนั้นเอ็ดดี้นั่งกินอาหารเงียบๆ ไม่คุย ไม่ดู ไม่ยิ้มแย้ม ไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ 


แก้วเดินขึ้นมาบนศาลา มาดามสุร้องวิ๊ด

“น้องแก้ว น้องแก้ว น้องแก้วขา”

มาดามสุถลาลุกวิ่งไปกอดแก้ว จูบแก้มซ้ายย้ายขวา

“น้องแก้วของพี่”

ทุกคนมองดูอย่างสังเวชใจ แก้วดันร่างมาดามสุออก ยิ้มอย่างเย็นชา

“เรียกผมว่าคุณแก้วเถอะครับ”

แก้วเดินไปรวมกลุ่ม มาดามสุชะงัก อึ้งไป แล้วยักไหล่ ถลาไปเชลียร์คนรวยต่อ

เอ็ดดี้ และราเชนทร์ มองดูแก้ว แล้วสบตากัน


ในห้องพักราเชนทร์ เอ็ดดี้เดินดูรอบๆห้อง ของในห้องทุกอย่างล้วนมีราคา เอ็ดดี้เอาแจกันลายครามมาดู

“ของแท้ว่ะ”

“อะไรนะพี่”

“กูบอกว่าแจกันนี่ของแท้ ดีไม่ดีราคาเป็นแสน”

“พวก ณ เวียงแก้วนี่ท่าทางรวยมาก.. ดูอย่างคุ้มนี่ใหญ่อย่างกะโรงแรม”

เอ็ดดี้ทำตาปริบๆกับคำเปรย

“พ่อเลี้ยงสั่งอะไรพี่มาบ้างล่ะ”

“ก็ให้เข้ามาดูลาดเลาแค่นั้น” เอ็ดดี้ไม่ยอมบอก

“พ่อเลี้ยงสงสัยว่าไอ้คุณแก้วอะไรนี่ ฮุบเงินกับยาของพ่อเลี้ยงไว้หรือ”

“เออ”

“เงินเท่าไหร่หรือพี่”

“พ่อเลี้ยงบอกว่าห้าสิบล้าน”

ราเชนทร์ลุกพรวดขึ้น ตาโต “ห้าสิบล้าน!”

“เงินแค่นี้ขนหน้าแข้งพ่อเลี้ยงไม่ร่วงหรอกโว้ย แต่พ่อเลี้ยงอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อีกอย่าง คนอย่างพ่อเลี้ยง
ไม่มีวันยอมให้ใครมาลูบคมหรอกโว้ย”

ราเชนทร์พยักหน้า


ทางเดินในคุ้ม พิมพ์ดาวเดินมากับแก้ว

“บทละครเรื่องนี้ คุณแก้วเอาเรื่องมาจากไหนกันคะ”

“ทำไมหรือครับ”

“ก็แค่อยากรู้น่ะค่ะ”

แก้วยิ้มขื่นๆ “เรื่องนี้ผมเขียนขึ้นจากคำบอกเล่าของ.. คนเก่าแก่น่ะครับ”

“คนเก่าแก่หรือคะ ก็แปลว่านี่เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมา”

แก้วมองหน้าพิมพ์ดาว “ก็ทำนองนั้นล่ะครับ”

“ก็แปลว่าอาจจะมีเค้าความจริงอยู่”

“คนที่เล่าให้ผมฟัง ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง”

“แหม ขนาดพงศาวดารกรุงศรีอยุธยายังมีตั้งไม่รู้กี่ต้นฉบับนะคะ หนังสือไทยรบพม่า กับ พม่ารบไทย ยัง
ไม่ตรงกันเลย”



แก้วยิ้ม มองพิมพ์ดาวขมขื่น “คุณสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยหรือฮะ”

“น้องสาวฉันเมเจอร์ประวัติศาสตร์น่ะค่ะ ฉันก็เลยได้อ่านๆมาบ้าง” 

“ที่คุ้มนี้มีห้องสมุด มีหนังสือมากพอสมควร ถ้าคุณสนใจ เชิญได้เลยนะครับ”

“ขอบคุณค่ะ คุณแก้วใจดีจัง”

“อย่าเชื่อแค่สิ่งที่ตาเราเห็นเลยครับ”

“แหม! คุณแก้ว”

พิมพ์ดาวหัวเราะ แก้วหัวเราะตาม ตรีภพเดินมามองดูทั้งคู่

“คุยอะไรกันอยู่”

“แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย”

“อ้าว ก็เห็นหัวเราะกันอยู่ ไม่อยากจะแชร์บ้างหรือ”

“แค่กดไลค์ค่ะ แต่ไม่แชร์.. กู๊ดไนท์นะคะ คุณแก้ว”

พิมพ์ดาวเดินกลับห้อง ตรีภพมองตามอย่างหมั่นไส้ แล้วหันมามองแก้ว


“ไงวะ ตบะแตกแล้วหรือ”

“แกพูดอะไร”

“อ้าว ก็ตั้งแต่มา ฉันเห็นแกทำหน้าเหมือนแบกโลก ถามคำตอบคำ อยู่ๆก็มาหัวเราะหัวใคร่กับยายพิมพ์นี่”

“คุณพิมพ์ดาวเป็นคนน่ารัก”

“โอ้โฮ เสน่ห์แรงจริงๆว่ะ ยายคนนี้”

แก้วมองดูตรีภพ รู้สึกอัดอั้นใจ “เปลี่ยนเรื่องพูดเถอะ”

“ก็ได้ว่ะ เออ ไอ้แก้ว บทละครเรื่องนี้ แกไปเอาเรื่องมาจากไหนกันวะ”

 

แก้วชะงัก มองหน้าตรีภพ

 


6 หน้า