บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอน 9 หน้า 5
ที่ห้องใต้ดินในคุ้มร้าง นางผัน นางเผื่อน คลอเคลีย เสียดสี ถูไถ เอ็ดดี้ ก่อนจะสำแดงเดช กลายร่างเป็น
อสูรกาย ปากแสยะ เห็นเขี้ยวเต็มปาก ดวงตากลายเป็นสีดำ เอ็ดดี้พลันล้วงสิ่งหนึ่งออกจากคอ โยนไปเบื้องหน้า
สิ่งนั้นคือสายสิญจน์เสก มันกลายเป็นเส้นแสง ขยายออกคล้องร่างนางผัน นางเผื่อน แล้วตวัดรัดขวับๆ ราวงูรัด
จากคอลงไปถึงเท้า นางผัน นางเผื่อน คืนร่างเป็นร่างธรรมดา ซูบซีด ผมยุ่งเหยิง ผ้าเก่าขาดวิ่น ล้มกลิ้งครวญคราง
อยู่กับพื้น
เอ็ดดี้พนมมือ ร่ายคาถาสำทับ
ที่ห้อง ตรีภพวางยอดหล้าลงบนเตียง แล้วเสียหลักล้มไปนอนตะแคงข้าง ยอดหล้าพลิกร่างขึ้นเหนือตรีภพ
แล้วปลดกระดุมเสื้อตรีภพ ดวงตาหยาดเยิ้ม เสื้อเปิดแบะออก เห็นสายสิญจน์ที่คอตรีภพ เรืองแสงจ้าขึ้น
ยอดหล้าผงะ ตรีภพงุนงง ยันกายขึ้น สร้อยสายสิญจน์แผ่แสงออกรอบตัว ยอดหล้าถอยไปยืนกลางห้อง
ดวงตาโกรธขึ้ง
“ด้ายอาคมของครูบาสรีอย่างนั้นหรือ ฮึ ข้าไม่กลัวหรอก”
ยอดหล้าเอื้อมมือไปยังสายสิญจน์ ทันใดมีเสียงนางผันนางเผื่อนร้องขอความช่วยเหลือดังแว่วมา ยอดหล้าชะงัก
แล้วหมุนกาย ร่างกลายเป็นเกลียวหมอกควัน พุ่งไปผ่านม่าน โคมไฟ ประตูระเบียงกระชากเปิดออก ตรีภพตื่นจาก
ความเคลิบเคลิ้ม มองดูโคมไฟที่แกว่งไกว และประตูที่อ้ากว้างอย่างงุนงง
ก่อนที่เอ็ดดี้จะกำจัดนางผัน นางเผื่อน ด้วยมีดอักขระ ทันใดเกลียวควันก็พุ่งลงมาขวางไว้ กลายร่างเป็นยอดหล้า
เอ็ดดี้ผงะถอย เห็นสง่าราศีของยอดหล้าก็หมดความมั่นใจไปครึ่งหนึ่ง ยอดหล้ามองเอ็ดดี้อย่างจงชัง แล้วมองนางผัน
นางเผื่อน สายสิญจน์จางแสงลง
“ด้ายอาคมอีกแล้วหรือ”
เอ็ดดี้ล้วงสายสิญจน์อีกเส้นมา อ่านมนต์ขว้างไป “ใช่ มีของเจ้าด้วย”
สายสิญจน์กลายเป็นเส้นแสง พุ่งขยายไปเข้าหายอดหล้า ยอดหล้าดวงตาเจิดจ้า ยื่นมือออก กำเส้นแสงไว้ เส้นแสง
กลายเป็นแค่เส้นด้าย ยอดหล้ามองอย่างดูแคลน แล้วมองดูเอ็ดดี้ เอ็ดดี้ตกใจ ยอดหล้าตวัดมือ ปาสายสิญจน์ไป
สายสิญจน์ลุกไหม้เป็นไฟกลางอากาศ ตกลงเป็นผุยผง
“เจ้ายังมีดีอะไรอีก”
เอ็ดดี้ตวัดมีดอาคมชี้มาตรงหน้า
“มีดอาคมของครูบาสรีอีกแล้วหรือ”
“ครูบาสรีอะไร กูเป็นศิษย์มหาจรวย”
“ลูกหลานของครูบาชั่วนั่นซีนะ ดี ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าครูของเจ้า เป็นแค่ธุลีดินใต้เท้าข้า”
เอ็ดดี้ฟันมีดอาคมใส่ยอดหล้า ยอดหล้ามองอย่างไม่สะทกสะท้าน มีดอาคมปะทะร่างยอดหล้า เกิดแสงจ้า แตกออกเป็นเส้น
ราวฟ้าผ่ากระจายไปทั่วทิศ ร่างเอ็ดดี้กระเด็นหวือไปกระแทกผนังอิฐทะลายลง มีดอาคมหักเป็น 2 ท่อน ตกกระทบพื้น
ดังเปรี้อง เอ็ดดี้ครางขยับตัว เท้าของยอดหล้าก้าวมาตรงหน้า นางผัน นางเผื่อน ยิ้มอาฆาตแค้นเข้ารายล้อม ร่างเอ็ดดี้ลอยขึ้น
กลางอากาศ แผดร้องสุดเสียง
ที่เรือนมหาจรวย มหาจรวยนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มหาจรวยผงะ ตื่นจากสมาธิ
แล้วถอนใจ
“ไอ้ทองดีเอ๊ย”
คุ้มหลวงในเวลาเช้า บรรยากาศสดใสคึกคัก รถโอบีมาประจำที่ รถตู้ขนนักข่าวไฮโซ และทีมงาน 2 ทีมมาจากสนามบิน
ที่ลานหน้าคุ้มหลวง ตั้งโต๊ะยาว ปูผ้าขาว มีเครื่องเซ่นสรวง สังเวยเทวดา พระคเนศ ปู่ฤๅษี เจ้าที่เจ้าทางไว้เต็มโต๊ะ
มีบายศรีอลังการอยู่หลายบายศรี บรรดานักแสดงทุกคนแต่งตัวเต็มที่ตามบทของแต่ละคน พิมพ์ดาวเย็นชาใส่ตรีภพ
ตรีภพงงเล็กน้อย แก้วเดินมาแหงนดูหน้าจั่วหนึ่งของคุ้ม แล้วเกิดสังหรณ์ประหลาด
ใกล้เวลาอุดมฤกษ์ พราหมณ์ก้าวมายังโต๊ะสังเวย บรรดาทุกคนมาเข้าแถวกันเรียงราย ทันใดมีรถตู้ทีมงาน
เขียนตัวหนังสือว่า คน ค้น ผี เลี้ยวขวับมาจอด นำด้วย จูน ญาณเทพ หญิงสาวในชุดเสื้อยืด กางเกงสีดำ
และเรียว สัมผัสที่ 6 ชายหนุ่มท่าทางระเหิดระหง สวมเสื้อผ้าสีดำขาว เรียวก้าวมาเคียงข้างจูน กวาดตางาม
มองดูรอบๆตัว
บรรดานักข่าวถ่ายรูป 2 นักสืบผีกัน ฐาปกรณ์เริ่มมีอาการคล้ายจะเป็นบ้า สบตาเมีย
“อี 2 คนนี่มันมาทำไม ใครไปเชิญมันมา”
บีบีแหวกคนออกมา วิ่งถลาไปต้อนรับ
“ว้าย ลูกขา มาแล้วหรือคะ”
บีบีเข้ากอดทักทาย จูบแก้มซ้ายย้ายขวาจูนและเรียว แล้วพากันก้าวมาหาฐาปกรณ์ และมาดามสุ
“คงไม่ต้องแนะนำนะคะ คุณจูนกับคุณเรียว มาช่วยค่ะ”
“ช่วยบ้าอะไร”
“อู๊ย คุณจูนกับคุณเรียว มีญาณทิพย์ ติดต่อเบื้องบนได้ ก็มาช่วยทำพิธีบวงสรวงน่ะซีคะ”
“ช่วยทำไม ก็มีเจ้าพิธีอยู่แล้ว”
พราหมณ์หน้าหงิก ยืนเชิด
“วุ๊ย คนเดียวหัวหายนะคะ”
“มันมากหมอมากความน่ะซี”
มาดามสุคิดคำนวณในใจ กระซิบบอกผัว
“ตามน้ำไปคุณ ดีซะอีก ได้รายการนี้มาโปรโมทให้ ยินดีค่ะ ยินดี เชิญเลยค่ะ”
ฐาปกรณ์พยายามระงับใจ มาดามสุ บีบี เชิญจูน และเรียว ไปตรงโต๊ะบวงสรวง พราหมณ์ทำท่าจะไม่ยอมทำพิธีต่อ
สุชาดาเพิ่มเงินให้เท่าตัว พราหมณ์ตกลง จูน เรียว เข้ายืนพนมมือขนาบพราหมณ์ ควันธูปโขมง ลอยขึ้นสูง
ผ่านหน้าจั่วเรือนยอด ราวจะขึ้นไปสรวงสวรรค์