บทละครโทรทัศน์ สุดแค้นแสนรัก ตอนที่ 11 หน้า 3
“ไม่ดีกว่าจ้ะแม่.. ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ความดีความงามของพี่ยงค์เขาทั้งหมดฉันขอเก็บเอาไว้ในความทรงจำก็พอ”
ทวีโผล่มาที่ประตูห้อง “ข้าวของไม่มากเท่าไร ผมว่าใช้รถเล็กเที่ยวเดียวก็น่าจะหมดนะครับ”
“ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะไปหาจ้างรถที่ไหน”
“ไม่ต้องจ้างหรอกครับ รถลูกน้องผมมี เติมน้ำมัน เลี้ยงข้าวเขาซักมื้อก็พอแล้ว ตกลงจะย้ายกันมะรืนนี้ใช่ไหมครับ ผมจะได้เอาลูกน้องมาช่วยขนของซักสองสามคน”
อ่ำเกรงใจ “รบกวนคุณแท้ๆ”
“เรื่องเล็กครับคุณน้า ธุระของคุณน้าก็เหมือนธุระของผมเหมือนกัน”
อัมพรรู้สึกดี นับวันทวีก็กลายเป็นเหมือนคนในครอบครัวขึ้นทุกที
ประยูรบอกแม่ “แม่..พรุ่งนี้เย็นๆ ฉันต้องกลับเข้าโรงเรียนแล้วนะ หมดวันลาแล้ว”
“เออ ตั้งอกตั้งใจเรียนให้จบ เอ็งติดยศวันไหน แม่ก็จะซื้อรถเก๋งให้เอ็งขี่วันนั้นแหละ”
“จริงๆ นะแม่”
“เออ..แม่รับปากอะไรไว้ไม่เคยลืมหรอกโว้ย.. เอ็งน่ะทำตัวให้ดี เมียแม่ก็หาเอาไว้ให้แล้ว แต่งกันแล้วก็รีบมีหลานให้แม่อุ้มก็แล้วกัน”
“เอาซักกี่คนดีล่ะแม่ โหลนึงเลยดีไหม”
“เออ เอ็งมีปัญญาทำไหว แม่ก็มีปัญญาเลี้ยงไหวเหมือนกันละโว้ย” แย้มหัวเราะ
“ไหวสิแม่ สบายมาก แม่อย่าบ่นก็แล้วกัน เพราะอีกหน่อยพะยอมมันก็เบ่งของมันออกมาเหมือนกัน อย่าลืม”
“เออ จะกลัวอะไรวะไร่นาสาโทเราออกมากมายก่ายกอง”
“คอยเลี้ยงลูกฉัน ลูกพะยอมมัน งั้นแม่ก็คืนยงยุทธให้พี่อัมพรเขาไปซะเถอะนะ” แย้มชะงัก รอยยิ้มค่อยๆ เหือดหายไป “ยังไงพี่ยงค์เขาก็สั่งเสียเอาไว้ เป็นเรื่องสุดท้ายก่อนตาย ถือซะว่าทำเพื่อพี่ยงค์เป็นครั้งสุดท้าย นะแม่นะ”
แย้มนิ่ง ยากจะคาดเดาความรู้สึก
ชาวบ้านเดินมาขึ้นรถโดยสารที่จอดอยู่ ลือพงษ์นั่งคอยในรถ รอให้ผู้โดยสารเต็ม พะยอมประกบลือพงษ์
ลือพงษ์ เห็นอุไรออกมาซื้อของ ก็เฝ้ามอง
พะยอมพูดขึ่น “ออกเลยไหมพี่ คนจะเต็มแล้ว กว่าจะถึงในเมืองอีก”
ลือพงษ์ไม่ได้สนใจฟังพะยอม แต่กลับเปิดประตูรถเดินออกไปทันที พะยอมงง มองตาม
ลือพงษ์เดินเข้ามาหาอุไร “อุไร” อุไรชะงัก มองนิ่ง “ได้ข่าวว่าตัวเองจะย้ายบ้านไปอยู่ในเมือง จะไปอยู่ตรงไหนกัน”
“จะรู้ไปทำไม เกี่ยวอะไรด้วย”
“แล้วจะขนของวันไหน มีรถรึยัง เค้าเอารถไปช่วยขนก็ได้นะ”
พะยอมรีบตามเข้ามา