บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 4 หน้า 13

“นั่นก็สุดแท้แต่เวรแต่กรรม”
กำนันแย้มถามบ้าง “แล้วเรื่องนังคนเมืองที่หายตัวไปล่ะหมออ่วม ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน”
เลื่องซ้ำเติม “สงสัยป่านนี้จะถูกเสือคาบไปกินแล้วมั้ง”
“บางทีอาจเป็นฝีมือของเจ้าแม่นาคีก็ได้” หมออ่วมเดาส่ง ไม่มั่นใจนัก แต่กำนันแย้มกลับเชื่อสนิทใจ
กำนันแย้มลงบันไดบ้านหมออ่วมมาหันมาสั่งเลื่อง “ไอ้เลื่อง เดี๋ยวพวกเอ็งเอาไอ้เดี่ยวกับไอ้ทัพออกไปตามหานังเด็กนั่นที”
“พ่อจะให้ฉันไปช่วยพวกมันทำไม”
“ข้าไม่ได้อยากจะช่วยมัน แต่ต้องการให้พวกมันรีบๆ ไสหัวออกไปให้พ้นดอนไม้ป่าก่อนถึงวันเกิดสุริยคราสต่างหาก”
“พวกมันอยากดื้อด้านหาเรื่องใส่ตัว น่าจะปล่อยให้ตายๆ ซะที่นี่”
“ไม่ได้เด็ดขาด! ยิ่งเจ้าแม่มีบริวารเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ อิทธิฤทธิ์ก็จะยิ่งกล้าแข็ง พวกเราจะพากันเดือดร้อนมากขึ้นเท่านั้น รีบตามหาตัวมันให้เจอ ก่อนที่คำทำนายของหมออ่วมจะเป็นจริง”
เลื่องพอจะเข้าใจเหตุผลของผู้เป็นพ่อที่มักคิดรอบด้านอยู่เสมอ
งูเขียวสองตัวเลื้อยเข้ามาคล้ายอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับคำแก้ว
“เจ้าว่ายังไงนะ ?”
ดวงตางูเขียวและดวงตาคำแก้วคล้ายกำลังสื่อสารกันอยู่ คำแก้วทำให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรัตนาวดี
รัตนาวดีลืมตาได้สติ พบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในถ้ำมืดมิด และอับชื้น “ช่วยด้วย....ใครจะได้ ช่วยฉันออกไปที...” เสียงร้องวี้ดดดดๆ แบบผีเปรตสลับกับหัวเราะของเปรตงูดังระงมในถ้ำ รัตนาวดีเห็นเปรตงูเป็นเงาๆ ตัวสูงใหญ่อยู่ในถ้ำ มือใหญ่เท่าใบลาน หัวเป็นงู แลบลิ้นแผล็บๆ “แก..... แกเป็นใคร... ต้องการอะไร...” รัตนางวดีเสียงสั่น กลัวจนน้ำตาร่วง
ทันใดนั้น เงาดำของเปรตงูก็พุ่งเข้ากระแทกร่างของรัตนาวดีอย่างแรง ดวงตาของรัตนาวดีเห็นภาพในอดีตชาติ
งูจงอางตัวหนึ่งนอนกกไข่อยู่ในรังใต้ดิน เสียงสั่นสะเทือนด้านนอก ทำให้งูจงอางเลื้อยออกมาจากโพรงอย่างระวังภัย เพ็ง (เจิดนภา) แพน (รัตนาวดี) เตรียมใบไม้เอามาปูเป็นที่นอนให้พิมพาวดี (พิมพ์พร) สำหรับค้างแรมในป่า
พิมพาวดีหันมาเห็นงูเข้า ก็หวีดร้องลั่น “กรี๊ดดดดด! งู !”
นางเพ็งหวีดร้องลั่นตามประสาหญิง งูจงอางกำลังจะเลื้อยหนี แต่ทันใดนั้นเอง ก็ถูกมีดสับกระเด็นจนหัวขาดจากลำตัว เลือดแดงฉาน