บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 4 หน้า 6

ระหว่าทางกลับบ้าน ลำเจียกเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้ใกล้ชิดกับทศพล “อีลำเจียกเอ๊ย... จะได้ผัวคนกรุงก็คราวนี้ล่ะวะ ตกล่องปล่องชิ้นกันเมื่อไหร่ จะได้ย้ายจากบ้านป่าไปเสวยสุขอยู่เมืองกรุง สบายกับเค้าเสียที” ขณะที่ลำเจียกกำลังฝันหวานอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงสวบสาบเลื้อยตามมาจากทางด้านหลัง ลำเจียกหันควับไปมองอย่างสงสัย... แต่ไม่พบอะไร “เสียงอะไรวะ” ลำเจียกหันกลับมา นัยน์ตาเบิกโพลง งูเผือกตัวใหญ่ มีหงอนอยู่บนหัว แผ่แม่เบี้ย ขู่ฟ่อๆ ตาแดงก่ำ อย่างประสงค์ร้าย “งู !!!!”
ลำเจียกจะวิ่งหนี แต่สะดุดรากไม้ล้มลง ก้นจ้ำเบ้ากับพื้น กระถดตัวหนีลนลาน งูเผือกเลื้อยใกล้เข้ามาเรื่อยๆในระยะประชิด ลำเจียกยกมือขึ้นบังหน้า เผยให้เห็นแหวนพิรอดที่นิ้ว แหวนพิรอดที่นิ้วเรืองแสงวาบ จนงูเผือกถึงกับผงะ ไม่กล้าเข้าใกล้ “กรี๊ดดดดดดด !!!!” ลำเจียกหลับหูหลับตากรี๊ดลั่นอยู่คนเดียว สักพักก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น.... งูเผือกหายไปแล้ว ลำเจียกถอนใจด้วยความโล่งอก รอดตายมาได้
คำแก้วซึ่งเผลอหลับอยู่ในห้อง รู้สึกถึงแรงสะท้อนจากแหวนพิรอดแผ่ออกมากระทบตัวเองด้วย “ประหลาด ! อยู่ๆ เราก็ฝันเห็นลำเจียก” คำแก้วคิดทบทวนความฝันที่เหมือนจริงมาก “หรือว่าในฝันเราคืองูตัวนั้น ?” คำแก้วเริ่มสงสัยในตัวเองมากขึ้น
รัตนาวดีเดินพล่าน ผุดลุกผุดนั่งไม่เป็นสุข บ่นงึมงำคนเดียวเหมือนคนสติแตก “หนี !ฉันต้องหนี ! หนีให้ได้ ! ต้องหนี !”
“นี่ยัยรัตน์ ! นั่งเฉยๆไม่เป็นหรือไง ! เดินพล่านอยู่ได้” เจิดนภารำคาญ
“เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ! เจ้าแม่นาคีต้องไม่ปล่อยพวกเราไว้แน่ๆ พวกเรากำลังตายนะยัยเจิด”
“บ้าไปแล้วหรือไง เจ้าม่ง เจ้าแม่ไม่มีทั้งนั้น เลิกพร่ำแต่เรื่องคอขาดบาดตายเสียที ฉันรำคาญ”
รัตนาวดีเห็นว่าเจิดนภาเสียงแข็ง ก็หันไปรบเร้าพิมพ์พร “พิมพ์ ! เราหนีไปจากที่นี่กันเถอะ... นะ... เราอยู่ที่นี่กันไม่ได้แล้ว”
“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าเธอจะหนี ก็เชิญหนีไปคนเดียว” พิมพ์พรพูดตัดรำคาญ และเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่แยแส
กอที่กำลังหมักส่าเหล้าในหม้ออีแล่งอยู่ ตาลุกโพลง หันควับมาทางลำเจียก “งูเผือกมีหงอนอย่างงั้นเหรอวะ !!”
“ตัวมันปลาบยาวตั้งวาตาแดงก่ำ แผ่แม่เบี้ยจะฉกฉัน พูดแล้วยังขนลุก”
“เอ็งเจอดีเข้าให้แล้ว นั่นแหละโว้ย เจ้าแม่นาคี!”
“งูนั่นน่ะเหรอพ่อ งูเจ้าแม่ !”
“ถ้าเอ็งไม่สวมแหวนพิรอดเอาไว้ คงกลายเป็นบริวารเจ้าแม่ไปแล้ว”