บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 15 หน้า 10

กรรเจียกเดินกลับตำหนัก ยังคงปลื้มในความสง่างามของไชยสิงห์ “ช่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวสมเป็นแม่ทัพเอกแห่งปัตตนคร”
“มิหนำซ้ำ ยังรูปงามด้วยนะเจ้าข้า” บายิ้มเขิน
อี่รีบเสริม “เสียดาย โง่ไปหน่อย หากเป็นข้าคงไม่กล้าปฏิเสธไมตรีจากองค์หญิง”
“ขึ้นชื่อว่าชายชาตินักรบ คงยอมตายดีกว่าไร้ศักดิ์ศรี.... ช่างน่าสงสารเหลือเกิน ข้าจักหาทางช่วยเขาได้เยี่ยงไร” กรรเจียกครุ่นคิด พิมพาวดี เดินเข้ามาพร้อมกับเพ็งแพนที่ถือสำรับกับข้าวมาด้วย พิมพาวดีชะงักไปเมื่อเห็นกรรเจียกที่หน้าคุก “พิมพาน้องพี่ ! สำรับคับค้อนตั้งมากมาย เจ้าจักเอาไปให้ใคร”
พิมพาวดีโกหก“เอ่อ....ข้าจักเอาไปถวายพระโหราธิบดี เจ้าพี่”
“ดีแท้ เยี่ยงนั้น พี่จักไปด้วย”
พิมพาวดีรีบปฏิเสธ “อย่าเลยเจ้าพี่ ช่วงนี้พระโหราธิบดีทำนายว่าข้ากำลังมีเคราะห์”
“จริงรึ แล้วต้องทำเยี่ยงใด จึงจักปัดเป่าเคราะห์ภัยของเจ้าลงได้”
“ถือศีลเจ้าข้า ! ข้าต้องถือศีลตามลำพังที่เทวาลัย จักให้ผู้ใดรบกวนมิได้” พิมพาวดีรีบตอบทันควัน
“หากเป็นเช่นนั้น เจ้าจงรีบไปเถิด พิมพา.... พี่จักกลับไปรอเจ้าที่ตำหนัก”
“เจ้าข้า” พิมพาวดียิ้มมุมปากที่มุสากรรเจียกได้สำเร็จ กรรเจียกไม่เฉลียวใจแม้แต่น้อย
พิมพาวดีทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แม่ทัพไชยสิงห์ “เจ้าคงจะเจ็บมากสินะข้าเอาอาหารและยาจากหมอหลวงมาให้”
“ท่านเป็นใคร?” แม่ทัพไชยสิงห์สีหน้างุนงงไม่รู้จัก
“ข้าชื่อพิมพาวดี เป็นธิดาคนเล็กของเจ้าพ่อ แม่ข้าเป็นแค่เจ้านางปลายแถว เลยไม่ค่อยมีใครรู้จัก แม้แต่เจ้าพ่อของข้าเองก็ทรงอาจลืมไปแล้วว่าข้าเป็นลูก”
“องค์หญิงพิมพาวดีช่างมีเมตตา แต่ข้าคงรับไว้ไม่ได้”
“เหตุใดเล่า” พิมพาวดีแปลกใจ
“ข้าเป็นแค่เชลยศึกต่ำต้อย มิอาจรับความกรุณาจากองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ได้หรอกเจ้าข้า”
“แต่ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น ถึงเจ้าจะเป็นเชลย แต่เจ้าก็เป็นคนเหมือนกันข้าจักขอชีวิตเจ้ากับเจ้าพ่อ”
“อย่าเลยเจ้าข้า ถ้าทำอย่างนั้น องค์หญิงจะทรงถูกกริ้ว”
“แต่ข้าอยากช่วยเจ้า ข้าไม่เห็นด้วยกับเจ้าพ่อเรื่องการทำศึกสงครามแต่แรก มรุกขนครและปัตตนครต่างเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน เหตุใดจึงต้องรบราฆ่าฟันกันเอง เราสูญเสียกันมากพอแล้ว ข้าจักไม่ยอมให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก โดยเฉพาะกับเจ้า... แม่ทัพไชยสิงห์”
แม่ทัพไชยสิงห์มองพิมพาวดีอย่างประทับใจในความมีเมตตา และคำพูดที่ฉลาดเฉลียว พิมพาวดีลอบยิ้มอย่างพอใจ