บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 15 หน้า 7

ที่อุทยาน เมืองมรุกขนคร กระต่ายสีขาววิ่งมา พิมพาวดี (พิมพ์พร) และกรรเจียก (ลำเจียก) พร้อมนางกำนัลทั้ง 4 ไล่ตะครุบกระต่ายตัวนั้น แต่จับเท่าไรก็จับไม่ได้สักที กรรเจียกตั้งท่าเหมือนจะตะครุบกระต่ายได้แต่หลุดมือ พิมพาวดีรีบชิงรวบหูกระต่ายขึ้นอย่างรวดเร็ว “ข้าจับมันได้แล้ว เจ้าพี่ ข้าจักเอามันไปเลี้ยงบนตำหนัก”
“กระต่ายขี้เยี่ยวเหม็นนัก เจ้าแม่เจ้าคงไม่ยอมแน่ พิมพา...” กรรเจียกค้าน
“ข้าจักบอกว่าเป็นกระต่ายของเจ้าพี่กรรเจียก เจ้าแม่ของเจ้าพี่เป็นถึงมหาเทวี เจ้านางเล็กๆ เยี่ยงเจ้าแม่ข้า ไม่กล้าว่ากระไรหรอก”
กรรเจียกค้อนขวับ “เจ้านี่นะ !”
พิมพาวดีหัวเราะเสียงใส กรรเจียกได้แต่ส่ายหน้าในความแก่นแก้วของน้องสาวต่างมารดา
ขบวนเชลยผ่านเข้ามาในเขตพระราชฐาน พิมพาวดีเห็นใบหน้าของแม่ทัพไชยสิงห์เข้าก็ตกตะลึงในความรูปงามจนกระทั่งปล่อยกระต่ายในมือร่วงลงพื้น เจ้ากระต่ายรีบเผ่นผล็อยไปทันที
“ใครกัน ?” พิมพาวดีมองไม่วางตา
“คงเป็นพวกเชลยศึกต่างเมือง” กรรเจียกก็จ้องไชยสิงห์เช่นกัน ทั้งสองหลงใหลใฝ่ปฏิพัทธ์ทั้งคู่
“ช่างรูปงามแท้..... ข้าใคร่เห็นหน้าเขาชัดๆ”
กรรเจียกเอ่ยเตือน “พูดกระไรเยี่ยงนั้น พิมพา เจ้าเป็นหญิง มันไม่งาม”
พิมพาวดีไม่ใส่ใจคำเตือนของกรรเจียก สายตายังคงจ้องไชยสิงห์ไม่วางตา พิมพาวดีแสดงอาการปลื้มเปรมไชยสิงห์อย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่กรรเจียกยังคงหงิมๆ เก็บอาการอยู่
พระเจ้านิรุทธราชเดินมาประทับบนบัลลังก์ รายล้อมด้วยพระธิดาทั้งสอง และเหล่านางกำนัล มหาอำมาตย์ ขุนวัง เจ้าอินทร์ พระโหราธิบดี พราหมณ์เฒ่าทั้ง 6 เหล่าเสนาอำมาตย์ นางใน ต่างถวายบังคม นั่งเฝ้าแหนตามบรรดาศักดิ์ลดหลั่นกันไป
มหาอำมาตย์รายงาน “เพลานี้แม่ทัพไชยสิงห์กับเชลยปัตตนครทั้งสิ้นทั้งปวงถูกจำไว้ในตรุ พระบาทเจ้าจักตัดสินโทษเยี่ยงไรเจ้าข้า”
“ฆ่ามันซะ”
กรรเจียกและพิมพาวดีต่างร้อนรนที่ได้ยินคำสั่งจากพระเจ้านิรุทธราช
พิมพาวดีค้าน “จักประหารแม่ทัพผู้นั้นมิได้นะเจ้าข้า”
อำมาตย์ต่างมองพิมพาวดีเป็นตาเดียวกันที่กล้าขัดรับสั่งเจ้าเหนือหัว
“เหตุใดพ่อจึงประหารมันไม่ได้เล่า พิมพาวดี ในเมื่อมันเป็นเชลยศึกของพ่อ พ่อเป็นเจ้าชีวิต จักทำเยี่ยงใดกับมันก็ได้”