บทละครโทรทัศน์ บาปบรรพกาล ตอนที่ 10 หน้า 2
บัววิ่งเตลิดตามทางเข้ามาจนถึงบริเวณสระบัว แต่แล้วก็คิดได้ว่ามาผิดทาง “ที่นี่มัน...”
ผีแม้นมาศหัวเราะ “หึหึ มึงหนีกูไม่พ้นหรอก”
บัวสะดุ้งเฮือกหันกลับมามองไม่เห็นอะไร ก็ขยับจะวิ่งหนี มือผีแม้นมาศเข้ามากระชากเท้าอย่างแรง บัวหวีดร้องแล้วล้มลงหน้ากระแทกพื้น เท้าผีแม้นมาศก้าวเข้ามาด้านหน้าของบัว บัวเห็นเท้ายืนอยู่ข้างหน้าก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองก็ผงะตกใจ ผีแม้นมาศถลึงตายืนชี้นิ้วด้วยความอาฆาตแค้น
“คุณแม้นมาศ...” บัวร้อง
“อีขี้ขโมย...แหวนกูอยู่ไหน เอาแหวนกูคืนมา”
บัวยกมือไหว้ “บัวเปล่านะคะ บัวไม่ได้เอาไป”
“กูไม่เชื่อ...มึงตาย” ผีแม้นมาศบีบคอบัวแล้วกระชากร่างบัวลอยขึ้นจากพื้น บัวดิ้นทุรนทุราย
รสสุคนธ์วิ่งเข้ามาเห็นก็ตกใจ รีบวิ่งเข้าไปช่วยดึงบัวออกจากผีแม้นมาศ “อย่านะย่าเล็ก..”
“ไม่....ฉันจะฆ่ามัน” ผีแม้นมาศกับรสสุคนธ์ยื้อบัวกันไปมา
รามนรินทร์วิ่งเข้ามาเห็นเพียงบัวกับรสสุคนธ์ยื้อคอกันก็ตกใจ
“หลบไปอย่ามายุ่ง” ผีแม้นมาศผละรสสุคนธ์อย่างแรง
ร่างของรสสุคนธ์ลอยกระเด็นเซหงายหลังตกลงไปในสระบัว “ว้ายยยยยย”
“คุณรส” รามนรินทร์รีบวิ่งเข้ามาหยุดริมสระบัว มองหารสสุคนธ์ที่จมหายไปในน้ำ
ในสระบัว ร่างของรสสุคนธ์จมอยู่ใต้สระบัว พยายามตะกายตัวขึ้นผิวน้ำแต่ขาดันไปติดกับกอบัว รสสุคนธ์พยายามดึงขาตัวเองออก แต่ก็ไม่สำเร็จ “ช่วยด้วย...ช่วยฉันด้วย”
รามนรินทร์มองลงไปในสระบัว แต่น้ำในสระบัวก็นิ่ง ไม่มีแม้แต่ร่างของรสสุคนธ์โผล่ขึ้นมา “คุณรส...คุณรส”
รามนรินทร์ตัดสินใจกระโดดลงไปในสระบัวทันที
ผีแม้นมาศที่บีบคอบัวอยู่ก็ชะงักหันไปมองก็ตกใจ “แม่รส...ไม่นะ” ผีแม้นมาศปล่อยมือจากบัวแล้วเคลื่อนตัวไปยืนที่ริมสระบัว บัวทรุดตัวหายใจเหนื่อยหอบ
รสสุคนธ์สำลักน้ำ เริ่มอ่อนแรง ทำท่าจะหมดลม ผีแม้นมาศเห็นภาพของรสสุคนธ์สะท้อนขึ้นมาบนผืนน้ำก็หวีด
ร้องลั่น “แม่รส...อย่าตายนะแม่รส”
บัวได้โอกาสก็รีบคลานหนีออกไป รามนรินทร์โผล่ขึ้นมาจากน้ำ โดยไม่มีร่างรสสุคนธ์
รามนรินทร์หน้าซีด “คุณรส...คุณอยู่ไหน” รามนรินทร์มองซ้ายมองขวาแล้วก้มลงดำน้ำลงไปในสระอีกครั้ง
ห้องโถง บ้านพรหมบดินทร์ ม.ร.ว.หญิงภาวิดาร้อนใจชะโงกคอมอง “ทำไมตารามยังไม่กลับมาอีกนะ หรือว่าจะเกิดเรื่อง”
“ใจเย็นครับคุณพี่ ผมให้เฟื่องไปดูแล้วเดี๋ยวก็คงกลับมา” ม.ร.ว.ภาณุกรเอ่ยปลอบ พูดไม่ขาดคำเฟื่อง จวงและปริกก็รีบวิ่งหน้าตื่นเข้ามา “ว่าไงเฟื่อง ที่เรือนคนใช้เกิดอะไรขึ้น” ม.ร.ว.ภาณุกรถาม
“ก็เรื่องเดิมๆ ล่ะค่ะ แต่คราวนี้เล่นหนักไปหน่อย” เฟื่องว่า