บทละครโทรทัศน์ ทายาทอสูร ตอนที่ 20 หน้า 3
“แต่คุณผู้หญิงบอกว่าคุณยายวรนาฎถูกวิญญาณอสูรเข้าสิง แล้วตอนนี้อสูรก็ออกจากร่างไปแล้ว”
“ออกไปก็เข้าใหม่ได้ แล้วถ้าเป็นอย่างงั้น วันหนึ่งเราก็คงถูกหักคอตาย ฉันว่าฉันกลับบ้านนอกดีกว่า”
“แต่ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ตอนนี้เจ้านายกำลังเดือดร้อน ฉันยิ่งต้องอยู่ช่วย”
“พี่เป็นหมอผีหรือไง น้ำหน้าอย่างพี่จะช่วยอะไรได้”
“ฉันเชื่อในความดี คนเราไม่ได้ทำชั่วซะอย่าง ผีมันทำอะไรไม่ได้หรอก” สว่างเดินไป
แก้วหมั่นไส้ “โอ๊ย พ่อคุณ พ่อสว่าง พ่อพระเอก เกิดจะมาหล่อเอาตอนนี้ แล้วฉันจะคอยดู ตอนแกจับไข้หัวโกร๋น”
สุดาดวงเดินเข้ามาในบ้านก็เจอกับโอฬารที่เดินลงมาจากชั้นบนอย่างหงุดหงิด “นั่นคุณจะไปไหนคะ ไหนบอกว่าวันนี้จะอยู่บ้าน”
“หุ้นส่วนผมโทรมาบอก ว่าการตกแต่งภายในมีปัญหา ผมต้องรีบไปเคลียร์ ไม่อยากเลื่อนเปิดโครงการ พวกคุณก็อยู่ดูแลคุณป้าไปเองแล้วกัน ผมไม่อยากยุ่ง” โอฬารเดินออกไปอย่างหัวเสีย
สุดาดวงมองตามด้วยความเป็นห่วง สุดาดวงหันไปเห็นรังสรรค์เดินถือขนมปัง ออกมาจากห้องครัว “สรรค์“
รังสรรค์หยุดเดิน “มีอะไรอีกครับคุณแม่ ถ้าจะให้ผมไปที่เรือนปั้นหยา ผมไม่ไปนะครับ จะนอน”
“นอน! ไหนบอกจะไปทำโปรเจคกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ”
“ไม่มีโปรเจคอะไรแล้วละครับ คุณยายใหญ่กลายเป็นสภาพแบบนี้ ผมจะเอาเงินที่ไหนไปลงทุนกับเพื่อน จะขอคุณพ่อ ก็คงจะไม่ได้แน่ๆ” พูดจบรังสรรค์ก็เดินขึ้นห้องนอนไป
สุดาดวงมองตามแล้วถอนหายใจอย่างกังวล
สุดาดวงเดินถือถ้วยข้าวต้มเข้ามา แก้วกับวรินทร์เช็ดตัวให้วรนาฎเสร็จพอดี แก้วเก็บผ้าเช็ดตัวแล้วยกอ่างออกไป
วรินทร์ประคองวรนาฎขึ้นนั่ง
สุดาดวงนั่งลงข้างๆวรนาฎ ป้อนข้าวต้ม “สุว่าคุณป้าน่าจะไปหาหมอ ตรวจสุขภาพสักหน่อยนะคะ”
“ป้าไม่เป็นไรหรอก คนแก่ก็เป็นอย่างนี้แหละ มีแต่อ่อนแรงลงทุกวัน หาหมอไปก็เท่านั้น”
“อุ้ยก็อยากให้คุณยายใหญ่ไปหาหมอเหมือนกัน อุ้ยอยากให้คุณยายใหญ่อยู่กับอุ้ยนานๆ”
วรนาฎหันไปยิ้มให้อุ้ยอย่างเอ็นดู “นานแค่ไหน ก็ต้องจากกัน แต่อย่างน้อย ยายก็ดีใจที่ก่อนตาย ยายได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากับลูกหลาน”
วรินทร์จับมือวรนาฎ ยิ้มให้อย่างเห็นใจ สงสารยาย
“และคุณป้าต้องอยู่กับพวกเราอีกนานค่ะ ทานข้าวนะคะ” สุดาดวงป้อนข้าวต้มให้วรนาฎต่อ
ที่ลานจอดรถบ้าน รัชโรจน์ขับรถเข้ามาจอด เดินลงจากรถแล้วไปเปิดประตูอีกด้านให้แม่ชีแสงบุญลงมา
แก้วเดินถืออ่างกับผ้าเช็ดตัววรนาฎผ่านมา รัชโรจน์เรียกไว้ “แก้ว คุณยายใหญ่หลับหรือเปล่า”
“น่าจะยังนะคะ คุณผู้หญิงเพิ่งจะเอาอาหารเช้าไปให้ที่เรือนปั้นหยา”