บทละครโทรทัศน์ บ่วงบรรจถรณ์ ตอน 9
ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ กีรตี ชนา บทโทรทัศน์ ชลนภัสส์ จันทรังษี จีรนุช ณ น่าน
หน้าหอคำ เจ้านางเรืองระยับตามมาต่อว่าหลาวเปิงอย่างไม่พอใจ
“คุณขังแพรนวลไว้ในห้องนอนอย่างเดียวไม่ได้”
“คำกล่าวหาจากคนร้ายเพียงคนเดียวไม่ใช่หลักฐานที่จะลงโทษใคร ผมต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน”
“ต้องให้อูซอมายืนยันเองมั้ยคุณถึงจะเชื่อ”
“ถ้ามันกล้ามาก็ดี”
เจ้านางเรืองระยับโกรธจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “คุณปกป้องผู้หญิงคนนั้นเหมือนตั้งใจหักหน้าฉัน”
“จิตใจของเจ้านางทำร้ายตัวเอง”
“หลาวเปิง !!” เจ้านางเรืองระยับแทบกรี๊ด แต่ต้องชะงัก เมื่อหันไปเห็นรถจี๊ปของทหารไทยสองคันแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณหอคำ พลขับทหารไทยคนขับรีบลงจากรถมาเปิดประตูให้พันตรีประกิตก้าวลงมาจากรถ พร้อมกับครูบุญสิงห์และนายต่วน “พันตรีประกิต” หลาวเปิงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ห้องนอนหลาวเปิง แพรนวลนั่งอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าเศร้า ยกนาฬิกาซึ่งแขวนอยู่กับสร้อยคอขึ้นมาดู เวลาแต่ละนาทีในตอนนี้ช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน เสียงเคาะประตูห้องพร้อมเสียงของเจ้านางตองริ้วดังขึ้น
“คุณแพรนวลคะ” แพรนวลรีบลุกเดินไปเปิดประตู เห็นเจ้านางตองริ้วกับจันสมยืนยิ้มรออยู่
“ลงไปข้างล่างกันเถอะค่ะ”
“แต่หลาวเปิงให้ฉันอยู่ในห้อง” เจ้านางตองริ้วยิ้มแล้วดึงแขนแพรนวลให้เดินออกไปด้วยกัน แพรนวลตามเจ้านางตองริ้วกับจันสมไปงง ๆ
โถงรับแขกในหอคำ พันตรีประกิตถามหลาวเปิงด้วยความห่วงใย แต่แฝงไว้ซึ่งความเคร่งขรึมและน่าเกรงขาม ซึ่งท่าทางหลาวเปิง เจ้านางเรืองระยับ เจ้านางตองริ้ว ซานแปง นายต่วน ต่างก็ให้ความเคารพนับถือ พันตรีประกิตเป็นอย่างมาก “ทหารของผมรายงานว่ามีคนแอบลักลอบเข้ามาในหอคำ”
“เราจับทหารของอูซอได้หนึ่งคน แต่อูซอกับลูกน้องที่เหลือหนีไปได้”
พันตรีประกิตเครียด
“อูซอเป็นลูกนายทหารที่มีกองกำลังนับหมื่นอยู่ในมือ ถ้าต้องรบกันซึ่ง ๆหน้า เวียงขินจะเสียเปรียบ”