บทละครโทรทัศน์ นายฮ้อยทมิฬ ตอน 5
บทประพันธ์ โดย คำพูน บุญทวีบทโทรทัศน์ โดย แพรพริมา
บ้านนายฮ้อยเคน นายฮ้อยเคนกลับเข้ามาหลังจากไปดูบัวเขียวร้องหมอลำ นายฮ้อยเคนถือไหปลาแดกเล็กๆ ติดมือมาด้วย “คำแก้ว...คำแก้ว” ในบ้านเงียบเชียบจนนายฮ้อยเคนรู้สึกแปลกใจ จึงเดินไปเคาะประตูห้องนอน คำแก้ว “คำแก้ว..คำแก้ว..อยู่บ่..จารย์เม้าฝากปลาแดกมาให้..คำแก้ว”
ไม่มีเสียงตอบกลับ ทำให้นายฮ้อยเคนเริ่มสงสัย กำลังจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปดู แต่ระหว่างนั้นเสียงโทน ดังเข้ามา “นายฮ้อย..นายฮ้อย...อยู่บ่” เสียงของโทนเหมือนมีเรื่อง ทำให้นายฮ้อยเคนรีบผละออกมาที่ชายเรือน เห็นโทนสีหน้ากำลังมีปัญหา มาเรียกให้ช่วยเหลือ “มีหยังล่ะผู้ซ่วย”
“ควายที่คอกเป็นหยังก็บ่ฮู้นายฮ้อย..อาการบ่ดีหลายโตเลย นายฮ้อยฟ้าวไปเบิ่งที”
นายฮ้อยเคนพยักหน้ารับ แล้วรีบเดินออกจากเรือนตามผู้ช่วยโทนไป คล้อยหลังนายฮ้อยเคนออกไปกับโทนได้ครู่ คำแก้วซึ่งแอบซุ่มรออยู่บริเวณใต้ถุนเรือน พร้อมห่อสัมภาระเดินทางจึงค่อยๆ โผล่ออกมา มองตามด้วยสีหน้าคิดตัดสินใจ แล้วรีบเดินไปที่ม้าของนายฮ้อยเคนที่ผูกอยู่กับหลักหน้าเรือน คำแก้วลูบหัวม้า
“ซอยข้อยแน พาข้อยไปบ้านเสือโฮกที ข้อยอยู่หม่องนี้กับนายเจ้าบ่ได้แล้ว”
บริเวณคอกควาย โทนกับสีโหยืนรอดูนายฮ้อยเคนที่กำลังตรวจดูอาการของควายตัวหนึ่ง ที่นอนซมอยู่ในคอก
“ตกลงอาการอีบัวศรี เป็นหยังล่ะนายฮ้อย”
นายฮ้อยเคนลูบหัวควายที่ซึมนอนนิ่ง แล้วนิ่วหน้าครุ่นคิด “ในคอกยังมีตัวอื่นเป็นจังซี้อีกบ่?”
โทนแจ้ง “กะมีอีบัวศรีกับอีกสองสามโตที่เพิ่งเป็น นายฮ้อยถามจังซี้ มีหยังผิดปกติแม่นบ่?”
“ถ้าอาการมันแค่ท้องอืด บ่เคี้ยวเอื้องอย่างเดียว ก็บ่มีหยังให้ต้องห่วง แต่ถ้ามันติดโรคระบาดมา จังซั่นล่ะน่าห่วงกว่า” สีโหตกใจ “โรคระบาด!! โรคหยังล่ะนายฮ้อย”
“ต้องถ่าเบิ่งอาการมันไปก่อน แต่ควรแยกพวกมันออกจากฝูง แล้วรักษาตามอาการไป จนกว่าข้อยสิแน่ใจ”
นายฮ้อยเคนพูดไปก็ลูบอีบัวศรีไปอย่างค่อนข้างกังวล
บริเวณถนนหมู่บ้าน ระหว่างทางเดินกลับบ้านบักมืด ชาวบ้านที่ชอบบัวเขียวเอาของกินเล็กๆน้อยๆยื่นให้