บทละครโทรทัศน์ นายฮ้อยทมิฬ ตอน 15
บทประพันธ์ โดย คำพูน บุญทวี บทโทรทัศน์ โดย แพรพริมา
ท้องฟ้าจากกลางวันไปสู่กลางคืนอย่างรวดเร็ว บัวตองกราดเกรี้ยวโกรธแค้น ความมืดเริ่มคืบคลานสู่หมู่บ้าน ชาวบ้านทั้งหญิงชายต่างวิ่งหอบลูกจูงหลานพากันเข้าเรือน ประตูหน้าต่างล็อคอย่างแน่นหนา บ้างก็หอบเป็ดไก่ในเล้ามากอดแล้วเอาเข้าไปอยู่ในเรือนด้วย บ้างพากันจับกลุ่มนั่งพนมมือสวดมนต์อยู่หน้าตั่งพระในบ้านอย่างหวาดกลัว เสียงวัวควายร้องดังระงม เสียงลมพัดกรรโชกเข้ามาอย่างแรง ประตูหน้าต่างกระแทกเรือนดังตึงตัง...พร้อมกับเสียงหัวเราะเล็กแหลมของบัวตอง ดังไปทั่วหมู่บ้านอย่างชวนขนลุกขนพอง ชาวบ้านหลายคนต้องกอดกันร้องไห้ระงม...กลัวแล้วๆๆ
ชาวบ้านต่างถือคบไฟพากันมารวมตัวอยู่หน้ากระท่อมพ่อธรรม ด้วยความหวาดกลัว
“บ่ไหวแล้วพ่อธรรม คืนนี้พวกผีปอบออกมาอาละวาดหนักกว่าทุกคืน เป็นตาย่านหลาย”
ชาวบ้านร้องไห้สะอื้น “ผัวข้อยยังบ่กลับเฮือนเลย..ป่านนี่สิเป็นจังได๋แนกะบ่ฮู้..ฮือๆๆๆ”
“ลูกชายข้อยก็หายโตไป..ข้อยหาเถาะได๋ก็หาบ่พ้อ..พ่อธรรมซอยข้อยแน..ฮือๆๆ”
พ่อธรรมหน้าเครียด “พวกเจ้าพากันกลับไปอยู่ในเฮือนก่อน ปิดประตูล็อคกลอนให้แน่นหนา แล้วเอายันต์ที่ข้อยให้ไว้ไปแขวนหน้าบ้าน คั่นฟ้ายังบ่แจ้ง ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด”
พ่อธรรมสั่งพวกชาวบ้าน แล้วหันไปมาเคร่งเครียดตัดสินใจ
บรรยากาศน่ากลัวของป่าช้า เสียงร้องไห้สะอื้นของเด็กชายชาวบ้านวัยประมาณ 10 ขวบดังคลอก่อนจะเห็นว่าเด็กชายกำลังนั่งกอดเข่าร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างกอไผ่ เนื้อตัวมอมแมมน่าเวทนา
“ซอยข้อยแน..อีพ่อ..อีแม่..ฮือๆๆ..ข้อยย่านแล้ว...ฮือๆ...ข้อยอยากเมือเฮือน..ฮือๆๆ”
เด็กชายร้องไห้อย่างน่าเวทนาได้ครู่ ผีปอบสาว 2 ตนก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางน่าเกลียดน่ากลัว มันแสยะยิ้มอย่างหิวกระหาย เด็กชายเห็นเข้าก็ตกใจยิ่งร้องไห้เสียงดัง “อย่าเฮ็ดข้อย..ข้อนย่านแล้ว ฮือๆๆๆ..ข้อยย่านแล้ว”
แต่พวกผีปอบไม่สนใจ พยายามเข้ามาจะทำร้ายเด็กที่ไม่มีทางสู้ ระหว่างนั้นเสียงพ่อธรรมดังขึ้น
“พวกมึงไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับเด็กน้อย”
พวกผีปอบ 2 ตนนั้นหันมาจ้องเขม็ง แยกเขี้ยวใส่อย่างไม่หวาดกลัว พ่อธรรมเลยต้องเอาไม้หวายขึ้นมาบริกรรม คาถาเป่าใส่ ก่อนจะเดินตรงไปใช้หวายในมือหวดใส่พวกมันทีละตัว