บทละครโทรทัศน์ นายฮ้อยทมิฬ ตอน 21 หน้า 3
ผู้ช่วยโทนก็เหมือนกันมองแสงโสมด้วยความช้ำใจ “ลากันที...แสงโสม ชาตินี่คงบ่ได้พ้อกันอีกแล้ว”
หลังถึกกับโทนตามนายฮ้อยเคนออกไปแล้ว เฒ่าโสมมองตามพวกนายฮ้อยเคนไปด้วยสีหน้าครุ่นคิดจนคิ้วขมวด
ถ้ำเหล็กไหล ควาญบ้าถูกพวกโจรลูกน้องหิ้วปีกพามานั่งลงพิงหินก้อนใหญ่ในถ้ำ ขอสับช้างยังปักอยู่ที่อกทำให้ควาญบ้าร้องเจ็บปวดทุนรนทุราย....อ๊ากกกกกก เสียงเจ็บปวกดังกึกก้องไปทั่วถ้ำทำให้ลูกน้องอดเป็นห่วงไม่ได้ ลูกน้องคนหนึ่งจะช่วยดึงขอสับช้างออกให้ แต่ควาญบ้าจับมือลูกน้องไว้...หมับ !! สายตากร้าวเขม็ง
“ห้ามไผแตะต้องขอสับช้างกูเด็ดขาด”
“แต่..แต่คั่นบ่เอาออก…ลูกพี่บ่รอดคักคัก”
“บักเคนมันฮู้ว่าอาวุธอย่างอื่นบ่ระคายผิวกู นอก..นอกจากขอสับช้างลงอาคมเหล็กไหลของกูเองเถาะนั่น..บัก..บักห่าเอ้ย !!!” ควาญบ้าเจ็บใจยิ่งเจ็บปวดกับบาดแผลเป็นอย่างมาก
“แล้วลูกพี่สิเฮ็ดจังได๋ ?”
“พวก..พวกมึงออกไปให้เบิ่ด..กู..กูต้องเฮ็ดพิธีเรียกเหล็กไหล ให้..ให้มันออกมาเอง”
พวกลูกน้องได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักมองหน้ากันอย่างหวาดกลัว หลายคนเริ่มมองไปรอบๆ ถ้ำอย่างหวาดหวั่น
“สิดีเบาะลูกพี่..ก็ไหนลูกพี่เคยบอกว่าคั่นเฮ็ดพิธีเรียกเหล็กไหลอีก อาถรรพ์ภูติผีที่ปกป้องเหล็กไหลในถ้ำนี่สิเฮ็ดลูกพี่ถึงตายแน่”
“เออ..เถื่อนี่มันบ่ปล่อยกูไว้แน่” ควาญบ้ามองไปรอบๆถ้ำ “คั่นกูบ่ตาย กูก็คงบ่คือเก่าอีก แต่กูก็ต้องเสี่ยงดีกว่านอนรอความตายจังซี้..ไปโลด..พวกมึงออกไปให้เบิ่ด..ไป !!!”
พวกลูกน้องมองหน้ากันอยู่ครู่แล้วตัดสินใจถอยออกไป ทิ้งควาญบ้าให้อยู่คนเดียวในถ้ำกับความเจ็บปวด และ สายตาที่กวาดมองไปรอบๆ ถ้ำเหมือนท้าทายอาถรรพ์ที่น่ากลัวในถ้ำ
ที่บริเวณทัพควาย นายฮ้อยเคน คำแก้วและ 2 ผู้ช่วยพากันกลับมา เจอบัวเขียวกับอาจารย์เม้าที่รออยู่อย่างเป็นห่วง “จารย์เม้า..นั่น !!! นายฮ้อยกลับมาแล้ว”
“เอื้อย...เอื้อย !!!” คำแก้วกับบัวเขียวดีใจที่ได้กลับมาเจอกันอีกจึงวิ่งเข้าไปกันกอดกันอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“คำแก้ว เอื้อยเป็นห่วงเจ้าแทบแย่...เป็นจังได๋แน”
“อ้ายสีโหเล่าให้เอื้อยฟังเบิ่ดแล้วเบาะ” บัวเขียวพยักหน้ารับ แล้วมองไปที่อาจารย์เม้าที่พยักหน้ารับเช่นกัน
“เถื่อนี่ทัพควายของเฮาพ้อศึกใหญ่กว่าทุกเถื่อ แม้แต่นายฮ้อยก็ยังเกือบเอาชีวิตบ่รอด ขืนอยู่หม่องนี่กันต่อ คงได้มีล้มหายตายจากกันแน่”