บทละครโทรทัศน์ บัลลังก์เมฆ ตอนที่ 1 หน้า 3
คมขวัญรีบพูดแทรก “หยุดพูดเรื่องสินค้า แล้วไปจัดการดูแลค่ารักษาพยาบาลลูกเรือของเราทั้งหมดก่อน”
“แต่ว่า…”
“สินค้า ..เรามีบริษัทประกันรับผิดชอบค่าเสียหาย แต่ชีวิตคนของเรานี่สิ ถ้าเราไม่รับผิดชอบ แล้วใครจะดูแลเขา” คมขวัญรีบพูดแทรกขึ้นอีก เสียงจริงจัง
ปริญญาพูดไม่ออก “เอ่อ …”
คมขวัญสั่งเด็ดขาด “ไปจัดการตามที่ฉันสั่ง แล้วอีกครึ่งชั่วโมง ..ฉันจะไปดูลูกเรือที่โรงพยาบาล”
ปริญญาชะงัก “ครึ่งชั่วโมง ..คุณนายจะไปได้เหรอครับ ในเมื่อคุณนาย …”
คมขวัญมองปริญญาอย่างสงสัย “ฉันทำไม ? !!”
หน้าบริษัทสมุทรเทวา รถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดข้างๆ รถของคมขวัญ ซึ่งกอบกำลังเช็ดรถอยู่ เสียงเบรกของรถทำให้กอบตกใจ รีบหันไปต่อว่าคนขับรถอีกคัน “เฮ้ย! ..ขับรถให้มันดีๆหน่อยๆ เบรคเสียงดังสนั่นขนาดนั้น ..เดี๋ยวรถคุณนายก็พังหรอกไอ้เกื้อ !!”
เกื้อรีบลงจากรถมาหากอบด้วยท่าทางร้อนใจ“พ่อ ! คุณนายล่ะ ?”
“คุณนายก็ทำงานอยู่ข้างในสิวะ แล้วนี่เอ็งมาที่นี่ทำไม?” ผู้เป็นพ่อย้อนถามลูกชาย
เกื้อร้อนใจ “ผมมารับคุณนายไปสนามบิน” เกื้อทำท่าจะวิ่งเข้าไปในตึก แต่กอบดึงเสื้อเกื้อไว้ก่อน
“เดี๋ยวๆๆ ..หน้าที่ขับรถให้คุณนาย มันหน้าที่พ่อ นี่เอ็งคิดจะมาแย่งงานพ่องั้นเหรอ?”
เกื้อถอนใจ อย่างร้อนใจ “โธ่พ่อ ..พ่อลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อวานคุณนายสั่งให้ผมพาไปสนามบินตอนเก้าโมงเพื่อไปรับ…” เกื้อยังไม่ทันพูดจบ ก็พอดีกับที่คมขวัญรีบเดินออกมาจากในตัวตึกพร้อมปริญญา
“ดีนะปริญญา...ที่เธอเตือนฉัน ไม่อย่างนั้นฉันคงลืมไปแล้ว” คมขวัญมองเกื้อ “อ้าวเกื้อ!... ดีเลยที่มาที่นี่ ..รีบไปเลยเร็ว ไม่รู้ป่านนี้เครื่องลงรึยัง?”
เกื้อรีบเปิดประตูให้คมขวัญขึ้นรถแล้วรีบขับรถออกไป ขณะที่กอบมองตามอย่างคิดๆ ว่าเกื้อจะพาคมขวัญไปรับใคร “คุณนายรีบไปรับใครที่สนามบินวะ” เกิ้อนึกได้ “อ๋อ!!! ..วันนี้คุณหนูกลับมาจากอเมริกานี่นา!!!”
ภายในอาคารสนามบิน บริเวณจุดรับกระเป๋าของผู้โดยสารขาเข้า ที่มีผู้คนมายืนออรอรับกระเป๋าของตนบริเวณสายพานที่เคลื่อนผ่าน ทันใดนั้นเองมือของกฤษฎา และชัชวาลยกกระเป๋าใบเดียวกันขึ้นจากสายพานพร้อมกัน ทั้งคู่ต่างมองหน้าคล้ายไม่พอใจอยู่ในที
“กระเป๋าคุณเหรอครับ?” ชัชวาลเอ่ยถามขึ้น
“ไม่ใช่ของผม …แต่เป็นของเพื่อนผม” กฤษฎาจะดึงกระเป๋าไป
“แต่ผมคิดว่าเป็นกระเป๋าเพื่อนผมนะ” ชัชวาลยังดึงกระเป๋าไว้
“แต่ผมว่ากระเป๋าเพื่อนคุณเป็นใบอื่นมากกว่า” กฤษฎาดึงกระเป๋าไว้ไม่ยอมให้อีกฝ่าย
ทันใดนั้นเองได้ยินเสียงหวานของปานรุ้งพูดมาจากด้านหลังของชัชวาลและกฤษฎา “ใบนั้นแหละค่ะของฉัน !”