บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 11 หน้า 4
ขันทองโมโห ตะคอก “ไม่ทราบ นี่เจ้ากล้า...”
เยื้อนพูดสวนขึ้น “บ่าวทราบแต่ว่า บ่าวไม่อยากเห็นคุณพระคุยกับหญิงอื่นเจ้าค่ะ”
ขันทองอึ้งไป ไม่คิดว่าเยื้อนจะกล้าพูดอย่างนี้
เยื้อนหน้าเศร้า “บ่าวรู้ ว่าบ่าวเลวนัก ที่กล้าคิดเช่นนี้กับผู้เป็นนาย แต่บ่าวก็ไม่อาจหักใจไม่ให้คิดได้ ด้วยคุณพระดีกับบ่าวนัก นับแต่บ่าวต้องตกเป็นทาส ก็ไม่เคยมีผู้ใดเมตตาบ่าว ดีกับบ่าว เช่นคุณพระมาก่อนเลยเจ้าค่ะ”เยื้อนเข้าไปกอดขาขันทองเอาไว้ ขันทองถอนใจ “ฉันดีกับเจ้า เพราะเราล้วนเป็นคนเหมือนกัน เป็นเพื่อนที่
เกิดมาร่วมชาติเดียวกัน หาใช่ฉันมีจิตชอบพอเจ้าไม่ แล...” ขันทองจะพูดก็เหมือนโกหกได้ไม่เต็มปากนัก
“แลฉันไม่อาจทำให้เจ้าสมหวังได้ดอก”
เยื้อนบีบน้ำตา “บ่าวทราบ ว่าคุณพระสิ้นความเป็นชายแล้ว แต่บ่าวไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ขอเพียงแต่คุณพระเมตตาบ่าวบ้าง บ่าวก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ”
ขันทองค่อยๆดึงขาออก “เจ้าไม่เข้าใจ มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดดอก” ขันทองเดินหนีไป
เยื้อนมองตามทั้งน้ำตาคลอ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นเจ็บแค้นขึ้นมา เจ็บใจมากที่ถูกผู้ชายซึ่งไม่ใช่ชายแท้ๆ ปฏิเสธเอาได้ คิดแล้วก็ยิ่งแค้นใจยิ่งขึ้น
ขันทองเดินเซ็งๆผ่านมาทางอ่างแก้ว เพราะยังไม่อยากกลับเรือน ขณะนั้นเองก็ได้กลิ่นธูปลอยมากระทบจมูก
ขันทองสูดหายใจลึกๆ เพื่อให้แน่ใจว่ากลิ่นอะไรแน่ แปลกใจ “กลิ่นธูป”
ขันทองเดินตามหาที่มาของกลิ่น ขณะนั้นเองก็เหลือบเห็นเลื่อนกำลังจุดธูปหนึ่งดอก เทียนหนึ่งเล่ม แล้วคุกเข่าอ่านคาถาที่ได้มาด้วยท่าทางหวาดกลัว เลื่อนกลัวผีมาก ท่องคาถาปากขมุบขมิบไป สายตาก็สอดส่ายมองไปรอบๆ ตลอดเวลา ด้วยความหวาดกลัว ขันทองซึ่งแอบดูอยู่ สงสัยว่าเลื่อนกำลังทำอะไรกันแน่
เลื่อนท่องคาถาเสร็จก็เป่าพรวด กลัวมาก “คุณท้าวเจ้าขา อย่ามาหลอกมาหลอนกันอีกเลยนะเจ้าคะ บ่าวกลัวแล้ว ไปที่ชอบๆเถิดเจ้าค่ะ” เลื่อนใช้มือขุดดินบริเวณริมอ่างแก้ว แล้วหยิบบางอย่างฝังลงไป ก่อนจะกลบดิน
พอเสร็จเรียบร้อย เลื่อนก็รีบถือตะเกียง เดินออกจากอ่างแก้วด้วยความกลัวทันที ขันทองมองตาม จนแน่ใจว่าเลื่อนไปแล้ว ก็รีบไปตรงที่เลื่อนใช้มือขุดดินทันที แล้วใช้มือขุดเอาดินออก เพื่อจะดูว่าเลื่อนฝังอะไรไว้ ไม่นาน ขันทองก็ขุดเจอแผ่นผ้าเล็กๆที่ถูกฝังอยู่ ขันทองรีบเอาแผ่นผ้าไปส่องกับเทียนที่เลื่อนจุดทิ้งไว้ข้างธูป ปรากฏว่าเป็นแผ่นยันต์ เขียนด้วยอักขระแปลกประหลาดแผ่นหนึ่ง ขันทองแปลกใจ “แผ่นยันต์”
ขันทองคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดาเรื่องได้ “นี่กลัว จนต้องมาสะกดวิญญาณแม่ข้าเชียวรึ”