รีเซต

บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 24 หน้า 5

บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 24 หน้า 5
Entertainment Report_1
24 เมษายน 2561 ( 03:03 )
9M
1
หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 24
17 หน้า

เผาไม่ทัน  หมดสภาพกรุงศรีอยุธยาที่เคยยิ่งใหญ่รุ่งเรือง

 

เรือนพระยาพลเทพ พระยาพลเทพกำลังคุยกับขุนแผลงฤทธิ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ขุนแผลงฤทธิ์หน้าเครียด

“สถานการณ์คับขันนัก จู่ๆจะส่งสาส์นไปถึงกองทัพอังวะ ไม่ง่ายเลยนะขอรับ  มิแน่ว่าอาจจะถูกพวกอังวะ เข้าใจผิด ฆ่าเอาก็ได้นะขอรับ”

พระยาพลเทพเครียดหนัก “ถึงอย่างไรก็ต้องเสี่ยง  เราทำกันมาถึงขนาดนี้ อีกนิดเดียวลาภยศทรัพย์สมบัติทั้งมวลก็จะเป็นของพวกเราแล้ว จะยอมให้อโยธยายอมแพ้ได้อย่างไร”

ขุนแผลงฤทธิ์เครียดหนัก “กระผมทราบขอรับ แต่ถูกล้อมทุกด้านเช่นนี้ จะฝ่าออกไป...”

พระยาพลเทพพูดสวนขึ้น “ถ้าทำสำเร็จ  ฉันสัญญา ว่าตำแหน่งมหาอุปราชจะเป็นของท่านขุน”

ขุนแผลงฤทธิ์ชะงักไป  ก่อนที่สีหน้าแววตาจะเปลี่ยนเป็นโลภมากขึ้นมาทันที

 

หัวค่ำ ค่ายมังมหานรธา เนเมียวสีหบดีกำลังอ่านจดหมายจากพระยาพลเทพ โดยมีมังมหานรธากึ่งนั่งกึ่งนอนห่มผ้าอยู่ใกล้ๆ เนเมียวสีหบดีอ่านจบก็หัวเราะเสียงดังลั่น “อ้ายพระยาพลเทพผู้นี้ ช่างโลภโมโทสันนัก ถึงกับให้คนเสี่ยงตายเอาหนังสือมาบอก ว่าหากไม่ยอมแพ้แลตั้งมันปกครองอโยธยา มันจะให้บรรณาการแก่อังวะเพิ่ม ขึ้นสามเท่า”

มังมหานรธาไข้ขึ้นสูง  ยิ้มบางๆ “ไม่มีผู้ใด จะทำร้ายคนไทได้มาก เท่ากับคนไทด้วยกันเองเลยจริงๆ”

เนเมียวสีหบดีขยำจดหมายแล้วโยนทิ้งไป

“ท่านเห็นว่าอย่างไร”

มังมหานรธาพนมมือขึ้นไหว้เหนือหัว “พระพุทธเจ้าอยู่หัว  ไม่ได้ทรงต้องการให้อโยธยาเป็นประเทศราช เพราะที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนไทมิยอมอยู่ใต้อำนาจได้นาน”

“น่าเวทนาอ้ายพระยาพลเทพนัก” เนเมียวสีบดียิ้มร้ายๆ “เช่นนั้นก็ต้องทำลายให้ย่อยยับ”

สีหน้าเนเมียวสีบดีเหี้ยมเกรียมดุดัน

 

ยามบ่าย  มุมหนึ่งในวัง ขันทองกำลังตกใจมาก นึกไม่ถึง “ไม่ยอมรับการเป็นเมืองขึ้น  เป็นไปได้อย่างไร”

ขันทองกำลังคุยกับท่านเจ้าคุณกำแหงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่านเจ้าคุณกำแหงโมโหสุดๆ

“ก็มันดูหมิ่นถิ่นแคลนเรา ว่าเป็นดั่งเนื้อบนเขียง จะหั่นจะสับตามใจอย่างไรก็ได้น่ะสิ”

ขันทองได้แต่ถอนใจอออกมาอย่างหนักใจ ท่านเจ้าคุณกำแหงแค้นสุดๆ

“ตามธรรมเนียมการศึก เมื่ออีกฝ่ายยอมแพ้แล้ว ก็ถือว่าเสร็จศึก จะเจรจาความอย่างไรก็ว่ามา แต่นี่มันบอกว่าจะยอมรับการเป็นเมืองขึ้นก็ต่อเมื่อ เรายอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ  มันหมายความว่ากระไร”


17 หน้า