บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 2 หน้า 3
ใกล้ๆ พระยาพลเทพมีสีหน้าเรียบเฉย แต่จมื่นศรีสรรักษ์มีสีหน้าเบื่อหน่ายสุดๆ แต่ต้องทน ขรัวเถื่อนเขียนอักขระเสร็จ ก็เอาเทียนออกไปจุ่มที่บาตรน้ำมนต์
เจ้าจอมเพ็ญก้มลงกราบ “ขอบพระคุณเจ้าค่ะขรัวตา”
ขรัวเถื่อนยิ้มเล็กน้อย “ข้าทำเสน่ห์เสริมมงคลให้แล้ว เอ็งอย่าได้กังวลกระไรอีกเลย ข้าเอาหัวเป็นประกัน ว่าพ่ออยู่หัวจะต้องทรงเมตตาเอ็งไปอีกนาน”
เจ้าจอมเพ็ญหน้าเครียด “แต่เพียงเท่านั้นยังไม่พอดอกเจ้าค่ะ ถึงจะเป็นเจ้าจอมคนโปรด แต่หากไม่ได้เป็นแม่หยั่วเมืองแล้วไซร้ ก็อาจตกอับลงได้ทุกเพลา”
“จะเป็นแม่หยั่วเมืองได้ ก็ต้องมีหน่อพระพุทธเจ้าให้พ่ออยู่หัวเสียก่อน เจ้าจอมท่านถวายรับใช้มานานปี ก็ยังหามีไม่ ขอขรัวตาท่าน ได้โปรดช่วยด้วยเถิดขอรับ แลหากขรัวตาปรารถนาสิ่งใด เจ้าจอมท่านก็พร้อมหามาให้ทุกสิ่ง” พระยาพลเทพเปิดทาง ขรัวเถื่อนปั้นหน้าบึ้งตึง “ข้าเป็นพระ จะมาพูดเรื่องลาภยศสรรเสริญได้กระไรวะ”
จมื่นศรีสรรักษ์ เบะปากดูถูก ปากบอกไม่ให้พูดเรื่องเงินทอง เห็นเรียกหนักๆทุกที เจ้าจอมเพ็ญหันไปพูดกับจมื่นศรีสรรักษ์ “คุณพระนายศรี”
จมื่นศรีสรรักษ์ลังเล “คุณพี่ขอรับ...”
เจ้าจอมเพ็ญพูดสวนขึ้น เสียงเข้ม “พี่สั่งว่าอย่างไร”
จมื่นศรีสรรักษ์ขัดไม่ได้ หยิบเอาห่อผ้าห่อหนึ่งออกมา แล้วคลานมาที่หน้าขรัวเถื่อน ก่อนจะวางห่อผ้าลงแล้วเปิดห่อผ้าออก เห็นเครื่องเพชรเครื่องทองในห่อ สุกสกาวเต็มไปหมด ขรัวเถื่อนตาลุกวาวที่เห็นของมีค่าขนาดนี้ ก่อนจะรีบปรับสีหน้าเป็นเคร่งขรึม แล้วหยิบขวดเล็กๆใส่ของเหลวใสๆออกมาขวดหนึ่งยื่นให้เจ้าจอมเพ็ญ
“เอาใส่ในเครื่องเสวย ไม่นาน ก็จะได้พระราชโอรสสมใจ”
เจ้าจอมเพ็ญดีใจมาก กราบ “ขอบพระคุณเจ้าค่ะ” เจ้าจอมเพ็ญรับขวดมาด้วยความตื่นเต้น
จมื่นศรีสรรักษ์เครียดหนัก “แค่ทำเสน่ห์เล่ห์กล ไม่มีคนรู้เห็นก็ไม่เป็นกระไร แต่ถึงขนาดเอาใส่ในเครื่องเสวย หากความแตก ไม่ถูกตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรรึ”
พระยาพลเทพรำคาญ “ถ้าตาขาวเช่นนี้ ทีหน้าทีหลังก็อย่าตามมาเลยคุณพระนาย ฉันกับเจ้าจอมท่าน ทำมาไม่รู้กี่คราแล้ว ไม่เห็นจะเป็นกระไร” จมื่นศรีสรรักษ์พูดไม่ออก กลัวพระยาพลเทพและกลัวพี่สาว เลยต้องทนหงุดหงิดอยู่คนเดียว ไม่กล้าพูดมาก เจ้าจอมเพ็ญมองดูขวดยาของขรัวเถื่อน ด้วยสายตาแวววาว หากตนมีลูกได้จริงๆ ความหวังที่จะเป็นแม่หยั่วเมืองก็อยู่แค่เอื้อม
บรรยากาศภายในสวนด้านหลังของวังตอนหัวค่ำ ดูเงียบ วังเวง และมืดสนิท ขันทองยืนอยู่คนเดียวที่ริมสระบัวขนาดใหญ่ โดยสระบัวแห่งนี้มีชื่อว่า “อ่างแก้ว” ขันทองยืนมองอ่างแก้วด้วยสีหน้าเจ็บช้ำ เสียใจ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น