บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 17 หน้า 2
ท่านเจ้าคุณกำแพงมองสารรูปแน่นก็ได้แต่ถอนใจออกมา ขุนรักษ์เทวายังเคืองๆ
“เพราะคุณพระศรีแท้ๆเทียว ท่านเจ้าคุณสู้อุตส่าห์จะรับหน้าให้แล้ว ก็ยังไม่ยอมลดหย่อนผ่อนโทษลงบ้าง น่าจะเห็นว่าเคยคบค้ากันมาเสียหน่อย นี่กระไร” สีหน้าขุนรักษ์เทวา ผิดหวัง “เสียแรงที่เคยคิดจะเข้าหา”
ขุนรักษ์เทวา สะบัดสะบิ้งทิ้งค้อน ท่านเจ้าคุณกำแหงเหล่ๆ มองขุนรักษ์เทวาเล็กน้อย
แน่นเจ็บหนักมาก แต่ยังพอมีสติ “อย่าตำหนิออกพระศรีเลยขอรับ ออกพระทำตามหน้าที่”
“ได้สติก็ปกป้องคุณพระเลยนา” ท่านเจ้าคุณกำแหงแกล้งถามเพื่อดูพิรุธ “เค้าทำถึงขนาดนี้ ไม่คิดแค้นบ้างเลยรึ”
แน่นเจ็บหนัก “กระผมใกล้ตายแล้ว แค้นเคืองไปจะมีประโยชน์อันใด แลกระผมก็เป็นฝ่ายผิด ยังควรแค้นอีกหรือขอรับ” ท่านเจ้าคุณกำแหงมีสีหน้าครุ่นคิด จับพิรุธของแน่นไม่ได้เลย ขุนเทพชำนาญตัวสั่นเพราะพิษไข้จากแผลไฟลวก “เอ็งไม่แค้น แต่ข้าขอจองเวรเอ็ง เอ็งทำให้พวกข้าต้องเป็นเช่นนี้”
ขุนรักษ์เทวาค้อนใส่ “เออ ดีนัก คนหนึ่งบอกว่าผิดจริงจึงไม่คิดแค้น แต่อีกคนกลับจองเวรไม่เลิก”
ขุนรักษ์เทวาทายาให้แน่นเสร็จ ก็ไปทายาให้ขุนเทพชำนาญต่อ ขุนเทพรักษาตัวสั่นเพราะพิษไข้จากแผลไฟลวก ร้องไห้ออกมา กล่าวถามท่านเจ้าคุณกำแพง
“ดีฉันไม่อยากตาย เมื่อลงโทษพวกดีฉันเสร็จ ก็จะตัดหัวแล้ว ใช่หรือไม่เจ้าคะ”
ท่านเจ้าคุณกำแหงพูดอะไรไม่ออก เพราะเป็นตามที่ขุนเทพรักษาพูดจริงๆ ขณะนั้นเอง ทหารคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในคุก ท่านเจ้าคุณกำแหงหันไปพูดกับทหาร “มีกระไรรึ”
“ท่านเจ้าคุณพลเทพให้มาตามท่านเจ้าคุณไปพบขอรับ บอกว่าต้องการปรึกษาเรื่องการสำเร็จโทษวันพรุ่งขอรับ”
ขุนเทพรักษาปล่อยโฮหนักกว่าเดิม กลัวจะถึงที่สุด ส่วนขุนเทพชำนาญก็ตัวสั่นเทามากขึ้น หวาดกลัวไม่แพ้กัน ท่านเจ้าคุณกำแหงและขุนรักษ์เทวาหน้าตาสลดลง ในที่สุดก็ต้องประหารทั้งสามคนแล้ว แน่นรับฟังทุกอย่างด้วยความสงบ ก่อนจะหลับตาลง ปล่อยวางทุกอย่างได้แล้ว
ขันทองเดินซึมๆ กลับมาถึงที่หน้าเรือนในตอนกลางคืน ทันใดนั้นเองหลวงศรีมะโนราชที่ซ่อนตัวอยู่ ก็โผล่ออกมาใช้ไม้ฟาดใส่ศีรษะขันทองเต็มแรง ขันทองเหลือบเห็นเข้าเลยฉากตัวหลบได้ทัน แต่ปลายไม้ก็ยังถูกหัวคิ้วขันทองจนเป็นแผลเล็กน้อย ขันทองตั้งสติได้ นึกไม่ถึง “หลวงศรีมะโนราช เหตุใดมาลอบทำร้ายกันเช่นนี้”
หลวงศรีมะโนราชเมามาก “ใช่แต่แค่นี้โว้ย กูจะฆ่ามึงให้ตาย อ้ายเจ้าเล่ห์ร้อยลิ้น”
หลวงศรีมะโนราชเงื้อไม้จะตีอีก แต่กลับถูกจับข้อมือไว้จากทางด้านหลัง หลวงศรีมะโนราชหันกลับไป ปรากฏว่าเป็นท่านเจ้าคุณกำแหงที่จับข้อมือตนไว้ หลวงศรีมะโนราชเมามาก