บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 5 หน้า 2
หน้าเรือนคุณท้าวโสภา เป้า ข้าหลวง อายุ16-17 รุ่นเดียวกับแมงเม่า หน้าตาสะสวย น่ารัก เป็นกำพร้า ได้คุณท้าวโสภาคอยเลี้ยงดูมาแต่เล็ก เดินออกจากเรือนมารับขันทอง ที่พาแมงเม่ามาที่หน้าเรือนคุณท้าวโสภา เป้ายิ้มแย้ม ไหว้ขันทอง “ฉันไหว้เจ้าค่ะคุณหลวง” ขันทองรับไหว้ สีหน้าดีขึ้นหลังจากออกจากศรีสำราญ
“นี่คือแม่แมงเม่า ที่ฉันใช้ให้คนมาบอกแม่เป้าก่อนหน้านี้” ขันทองหันไปพูดกับแมงเม่า
“แม่เป้า เป็นข้าหลวงแลมีหน้าที่รับใช้คุณท้าวโสภา หากมีกระไรขาดเหลือ ก็บอกแม่เป้าได้”
แมงเม่าไหว้เป้า “ฉันไหว้เจ้าค่ะ”
เป้าตกใจ รีบรับไหว้ “อุ๊ย ไม่ต้องไหว้ดอกจ้ะ เราน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน เรียกชื่อฉันเฉยๆก็ได้”
แมงเม่ายิ้มรับ รู้สึกถูกชะตากับเป้าขึ้นมา เป้ายิ้มแย้ม
“ฉันจัดห้องหับไว้ให้แล้ว เชิญคุณหลวงกับแม่แมงเม่าบนเรือนก่อนสิเจ้าคะ” เป้าเดินนำทั้งคู่ขึ้นเรือนไป
เรือนคุณท้าว เป้าเปิดประตูห้องนอนออก เพื่อให้ขันทอง แมงเม่าตรวจดู ภายในห้องตกแต่งเรียบร้อย
มีทุกอย่างครบครัน เป้ายิ้มแย้ม
“แม่แมงเม่านอนห้องนี้นะจ๊ะ ส่วนเรื่องสำรับกับข้าว ฉันจัดเตรียมไว้ให้แล้ว ประเดี๋ยวจะยกมาให้”
แมงเม่ายิ้มแย้ม “ไม่ต้องดอกจ้ะแม่เป้า ฉันกินรวมกับคนอื่นก็ได้ อย่าลำบากยกมาเลย”
ขันทองพูดสวนขึ้น หน้าบึ้งตึง “ไม่ได้ กรมขุนท่านรับสั่งมา มิให้เจ้าอยู่ร่วมกับข้าหลวงคนอื่น” ขันทองตัดบท
“เอ้า เข้าไปดูซี ว่าขาดเหลือกระไรบ้าง ฉันจะได้จัดการให้”
แมงเม่ายิ้มแย้ม “เจ้าค่ะ”
แมงเม่าเดินเข้าไปในห้อง โดยขันทองไม่ยอมเข้าไป รออยู่แค่หน้าห้องเท่านั้น เป้ายิ้มแย้ม หันไปพูดกับขันทอง”ถ้ากระนั้น ฉันไปยกสำรับมาก่อนนะเจ้าคะ” ขันทองพยักหน้ารับ “ขอบน้ำใจแม่นัก” เป้าเดินเลี่ยงไป
แมงเม่าตรวจดูจนทั่ว ในห้องมีกระจก หวี แป้ง น้ำอบ เหยือกใส่น้ำ ฯลฯ ครบทุกอย่าง แมงเม่าหันกลับมาคุยกับขันทอง “มีครบยิ่งกว่าที่เรือนของฉันอีกเจ้าค่ะ”
แมงเม่าแปลกใจ ที่เห็นขันทองยืนอยู่หน้าห้องไม่เข้ามา “เหตุใดออกหลวงไม่เข้ามาในห้องเล่าเจ้าคะ”
ขันทองหน้าบึ้งตึง “อยู่ด้วยกันในห้องมันไม่งาม เจ้าจะถูกนินทาว่าร้ายเอาได้”
แมงเม่านึกไม่ถึง “นินทาฉันกับออกหลวงน่ะหรือเจ้าคะ” แมงเม่าหัวเราะชอบใจ “ฉันชักอยากเห็นเสียแล้วซี ว่าผู้ใดจะคิดอกุศลได้ถึงเพียงนี้” ขันทองหน้าหงิกกว่าเดิม “ปากคอเจ้า นี่มันเลาะร้ายเกินหญิงนัก ไม่รู้เวรกรรม
กระไรของฉัน ถึงต้องมาเจอเจ้า” ขันทองจะเดินหนี
แมงเม่ารีบเรียกไว้ “ประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ขันทองหันกลับมา “มีกระไรอีก”