บทละครโทรทัศน์ กำไลมาศ ตอนที่ 8 หน้า 3
พริมโวยวายอาร์ม “อะไรกันวะอาร์ม ยิ่งรีบๆอยู่ด้วย แกลงไปดูซิว่ารถเป็นอะไร เร็ว !!”
“เออ...รู้แล้วน่า” อาร์มก้มกดปุ่มเปิดฝากระโปงหน้า อาร์มเปิดประตู ก้าวลงจากรถ สายตาก็เหลือบไปเห็นอินทวงศ์กำลังโอบกอดร่างไร้สติของเกล้ามาศ
พริมเห็นว่าอาร์มเอาแต่มองอินทวงศ์กอดเกล้ามาศ ก็ตะโกนเร่ง “ไอ้อาร์ม !!”
อาร์มหันมาทางพริม “เออๆๆ...” อาร์มหันกลับมา... ทันใดนั้น เขาก็เห็นริ้วทองยืนอยู่ข้างหน้าในระยะประชิดข้างประตูรถ “เฮ้ย !!!!!!!” อาร์มเสียหลักกลิ้งลงพื้น หมุนไปหลายตลบ
ริ้วทองจิกตา !ที่ประตูรถด้านนอกเผยอออก ประตูรถกำลังจะเปิด หน้าริ้วทองยิ้มร้าย
แต่ทันใดนั้นเสียงพระปราบดังขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้ !”
ริ้วทองหันหน้าไปด้านหนึ่ง “มึง ! มึงเป็นใคร ! มายุ่งเรื่องของกูทำไม !!!”
พระสงฆ์นั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้ภายในป่าเงียบสงัด จู่ๆก็เกิดลมพัดกรรโชกแรง กิ่งไม้บนต้นไม้สูงใหญ่พัดเอนไหว ใบไม้ปลิวว่อนลอยในอากาศ แต่มิอาจทำให้พระสงฆ์รูปนั้นไหวติง พื้นดินห่างออกไป เศษใบไม้แห้งที่พื้นถูกแหวกให้เป็นทางแทนการเดินทางของริ้วทอง จนกระทั่งการเคลื่อนไหวนั้นหยุดอยู่ตรงหน้าพระสงฆ์
ร่างของริ้วทองปรากฏขึ้น ริ้วทองกำลังโกรธสุดขีด “มึงเป็นใคร! มาแส่เรื่องของกูทำไม !” ดวงตาของพระสงฆ์ลืมขึ้น ริ้วทองเห็นใบหน้าและแววตาอันแสนคุ้นเคยของพระสงฆ์...ความโกรธก็แปรเปลี่ยนเป็นความอึ้งระคนดีใจ...ลมพัดหายไปทันที “พี่ปรุง !!!”
พระสงฆ์รูปนั้นคือ พระปราบ หรือ ปรุงในอดีตชาตินั่นเอง !
อาร์มมองหาไปรอบๆรถ พริมลงรถตามมา “แกเป็นอะไรของแกวะเนี่ย มองหาอะไร ?”
“เมื่อกี้...มีผู้หญิงท่าทางแปลกๆยืนอยู่ข้างรถ”
“ผู้หญิงที่ไหน ไม่เห็นจะมีใครสักคน เฮิร์ตแล้วตาฝาดนะแก ไปเลย..รีบไปดูรถจะได้พายัยมาศไปส่งโรงพยาบาล”
พริมกลับเข้าไปในรถ อาร์มยังมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย
ริ้วทองก้มกราบพระปราบ น้ำตานองหน้าด้วยความดีใจ “ชั้นเหงา ชั้นคิดถึงพี่ คิดถึงพ่อแม่เหลือเกิน”
“ถ้าสิ่งที่แบกไว้ทำให้ใจเป็นทุกข์ก็วางมันลงเสียเถอะนะ”
“ชั้นยังไม่อยากไปไหน ชั้นจะต้องแก้แค้นอีคนที่มันทำกับพวกเรา”
“ใครทำสิ่งใดไว้ก็ปล่อยให้เวรกรรมทำหน้าที่คืนสนองแก่ตัวเขาเองเถิด”
“คืนสนองเรอะ! อีรัมภามันฆ่าชั้น ชั้นตายไปแล้วมันก็ยังกักขังวิญญาณของชั้นไม่ให้ไปผุดไปเกิด ไม่เห็นบาปกรรมจะคืนสนองตัวมันเลย แต่ชั้นสิ...ชั้นทำอะไรนักหนา ชั้นถึงต้องอยู่กับความทุกข์”
“ทุกอย่างมันเกิดแต่เหตุ เพราะมีเหตุมันจึงมีผล และผลที่โยมต้องเป็นเช่นนี้ เพราะโยมเองก็เคยไปผูกเวรไว้กับเขาอย่างไรเล่าโยมริ้วทอง”